บริการย่อ URL ให้สั้นกระชับอย่าง Bit.ly ที่มี รายงาน วิเคราะห์มากมาย และระบบที่ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้ว Bit.ly มี API น่าสนใจซ่อนอยู่สำหรับบริการ Shorten URL ที่เอเจนซี่หลายเจ้านิยม หยิบ URL ของเว็บไซต์ หรือบทความที่มี URL ยาวๆ บางทีก็เป็นภาษาไทย เวลาส่งให้เพื่อนก็มักะเจอคำถามโง่ๆ ใน Chat Message ว่า “ไวรัสเปล่าเนี่ย” (ดู Main URL ไม่ออกเหรอวะ) กลับมาซึ่งบางครั้ง URL ที่ยาวเกินไปก็เอาไปเล่นกับโฆษณาบนสิ่งพิมพ์ หรือ Banner บนเว็บไซต์ยาก ทั้งเรื่องของการมอง URL แล้วอ่านผิดพลาด หรือยาวเกินไปจนไม่อยากจะจำ หรือจำไม่ได้
ตัวอย่างเช่น URL ของหน้า Fan Page ของ Amarin Brand Sale มี URL คือ https://www.facebook.com/AmarinBrandSaleFan ที่ยาวและมีโอกาสจำผิดได้สูง ถ้าหยิบ URL นี้ไปเล่นที่ Twitter (ก่อนหน้าที่ Twitter จะมี Short URL ของตัวเอง) ก็จะต้องเสียจำนวนของ Tweet ไปพอสมควร และก็ยังไม่ทราบอีกว่า เราได้ยอดคลิกจาก Twitter มาเท่าไร
แต่ถ้าเราใช้ Bit.ly (http://bit.ly) แค่เราเข้าระบบแล้วเอา URL ยาวๆ อย่าง https://www.facebook.com/AmarinBrandSaleFan ไปวางที่ หน้าหลักของ Bit.ly ระบบก็จะสร้าง Shorten URL กลับมาให้สั้นๆ ประหยัดตัวอักษรอีกทั้งยังสามารถ Track วิเคราะห์ การคลิก และการเข้าชมที่มาจาก URL ของ Bit.ly ได้ง่ายอีกด้วย เหมาะแก่การนำมาวิเคราะห์ % Conversion Rate ผ่าน Call To Action (CTA) มากๆ ครับ
ขั้นตอนการใช้ Bit.ly เบื้องต้น
อันที่จริงใช้งานแค่นี้ก็คงจบ เหมาะกับการวิเคราะห์ Trend ของ Content และ สินค้าผ่าน URL ที่เราสร้าง Call To Action ไว้ แต่ถ้าให้เราต้องมาใช้งาน Bit.ly แบบ Manual พลังมือเวลามีแคมเปญใหม่ๆ จากหน้าเว็บไซต์แบรนด์สินค้า หรือบริการของเราออกมาเรื่อยๆ เราก็ต้องให้ฝ่าย Social Media Marketing, PR หรือการตลาด มาคอยทำรายงาน Excel จับ URL ใหม่ๆ จากระบบ WordPress, Content Management System (CMS) หรือ News Bookmark ผ่าน Facebook, YouTube มากมายสากเบือ มาทำ Bit.ly ทีละนิด ทีละหน่อย อย่างนั้นหรือเปล่า?
อันที่จริง Bit.ly สามารถดำเนินงานให้เป็น Automatic Step ได้ครับ ผ่าน API ของมัน ให้เลื่อนลงไปที่ส่วน Footer ของ เว็บไซต์ที่เขียนว่า Developers หรือที่ http://dev.bitly.com/ ครับ
ซึ่งใน Developers Page ของ Bit.ly นั้นจะมีหน้าให้เราทำการ Register ตัว แอพพลิเคชันของเราก่อน ซึ่งก็คือ Domain Name ของเว็บไซต์ที่เราอยากจะใช้งาน API ของ Bit.ly นั่นแหละครับ
ต่อมาให้ไปดูเอกสาร Document ของ Bit.ly API เราจะพบกับ คำสั่งสำหรับนำ API ตัวนี้ไป Integrated กับ Blog เว็บไซต์ หรือ อะไรก็ได้ที่เป็น Dynamic Content ประเภท CMS ให้มันสร้าง Short URL ครับ สำหรับ คำสั่งเบื้องต้น ที่จะแนะนำคือภาษา PHP ครับ
วิธีเรียกใช้ก็คือ
//returns http://bit.ly/VWi7Bq
โดยค่า API_KEY นั้นคุณสามารถเข้าไปดูได้ที่ หน้านี้ครับ https://bitly.com/a/your_api_key
หากเอามาใช้จะเห็นว่า เราสามารถสร้าง Shorted URL ได้สะดวก และสร้างได้อัตโนมัติเลย สามารถเอาไปใช้งานกับ หน้า Wall Facebook หรือคู่รักของมันอย่าง QR Code ได้ครับ
ทำไม Bit.ly กับ QR Code เป็นของที่ควรไปด้วยกัน ในกรณีสร้างแคมเปญการตลาดบนมือถือ Mobile Marketing
หลายคนชอบถามผมว่าทำไม ถึงชอบใช้ Short URL กับ QR Code คือเค้างงว่าทำไมผมต้อง เอา Link URL ไปลง Bit.ly ก่อนค่อยทำ QR Code
เหตุผลที่ผมมักจะตอบกลับไป มีดังนี้ครับ
- QR Code เอามาสแกนกับคอมพิวเตอร์ได้ โดย Upload ผ่านเว็บหรือแสกนผ่าน Web Cam แต่… ถ้าสแกนผ่านคอมพิวเตอร์ได้ก็พิมพ์ URL ไปเลยง่ายกว่าไหม
- QR Code เหมาะกับมือถือ เพราะมือถือสแกนแล้วเข้าเว็บอ่านข้อมูลได้ทันที ดังนั้นไม่แปลกใจที่จะต้องมีการวางหน้า Mobile Website ไว้ และถ้ามีข้อกังขาอื่น ให้ดูข้อ 1.
- QR Code เอาไว้ใช้กับสิ่งพิมพ์ ที่ต้องการโยงคนจากสิ่งพิมพ์กลับมาที่เว็บไซต์ แม้ว่ามันจะมีทั้งการใส่ Text, SMS หรือ เบอร์โทร ก็ตาม แต่คิดดูสิว่า ถ้าสแกน QR Code แล้วโทรออก หรือ SMS ออกมันก็ยังพอทำเนา แต่ถ้า นิตยสารบางเล่มทำ QR Code ขึ้นมาเพื่อให้สแกน เจอหมายเลขโทรศัพท์อีก ทีคุณก็ต้องหยิบดินสอขึ้นมาจด ลายระเอียดข้อความเหล่านั้นอยู่ดีใช่หรือไม่? แล้วจะทำ Text, SMS ไปทำไม ก็ทำเว็บไปเลย
- จากข้อ 3 มาขยายความต่อ ถ้าสแกนแล้วเข้าเว็บไซต์ QR Code ก้ใส่ เว็บลงไปเลย จะมาทำ Bit.ly ทำไม, เพราะผมชอบใช้ Bit.ly ในการช่วยจับสถิติ คลิก ของผู้บริโภคจาก แคมเปญครับ และ ที่ผมใช้ Bit.ly ก็เพราะความคมชัดของ QR Code
ความคมชัดของ QR Code ?
ลองเอา URL เว็บไซต์นี้ครับ มี URL ยาวๆ ดังนี้
http://www.socialmediaexaminer.com/5-reasons-your-business-should-be-blogging/?myshout=what-the-fuck-of-digital-marketing-and-agency-in-thailand
แล้วลองหา เครื่องมือสร้าง QR Code มาสร้าง QR Code จาก URL นี้ดูจะได้ผลดังนี้
แต่ถ้าเอา URL นี้ไปลง Bit.ly ก่อน แล้วค่อยเอามาสร้าง QR Code
ผลลัพธ์ความแตกต่าง นั้นคือ อักขระและความละเอียดของภาพกราฟิกบน QR Code ซึ่งถ้าหากว่า URL ไม่ได้ย่อก็จะมีการเข้ารหัส อักขระกราฟิก มากเกินไปทำให้ QR Code มีรายละเอียดที่สูง ถ้าหากว่าเราเอาไปใช้กับสิ่งพิมพ์ หรือแปะบนวัตถุขนาดเล็ก เราต้องย่อขนาดมันลง ก็จะทำให้มือถือบางรุ่นที่กล้องไม่ดี สแกน QR Code ไม่ได้ หรือกว่าจะได้ก็ลำบาก
ตรงกันข้าม ถ้าใช้ Bit.ly แล้วนอกจากเรื่องรายงาน เราก็จะได้ URL ที่สั้น พอจับมาทำ QR Code ก็จะได้ กราฟิกที่มีรายละเอียดเล็กน้อย ขนาดพอเหมาะพร้อมสำหรับการนำไปย่อขนาดภาพ หรือ ขยายโดยที่ มือถือก็สามารถสแกนได้อย่างไม่มีปัญหา
ซึ่งตัว Bit.ly เองก็สามารถ สร้าง QR Code จากตัวมันเองได้เช่นกัน เช่นถ้าคุณได้ทำการ ย่อ URL คุณได้ดังนี้
http://bit.ly/VWi7Bq (ลองคลิกดู มันจะเข้าหน้าเว็บไซต์)
ถ้าคุณต้องการสร้าง QR Code ก็เพียงแค่ เพื่ม Parameter เข้าไปดังนี้
http://bit.ly/VWi7Bq.qrcode (ลองคลิกดูมันกลายเป็น QR Code)
ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยน ขนาดความกว้างของ QR Code ได้โดยต่อ Parameter เข้าไปอีกด้วยขนาดตัวเลข 300,150 หรือ 500 ดังนี้
http://bit.ly/VWi7Bq.qrcode?s=300 (คลิกดูจะเห็น QRCode ความกว้าง 300)
http://bit.ly/VWi7Bq.qrcode?s=150 (คลิกดูจะเห็น QRCode ความกว้าง 150)
http://bit.ly/VWi7Bq.qrcode?s=500 (คลิกดูจะเห็น QRCode ความกว้าง 500)
ถ้าเอามาเขียนร่วมกับ Tag HTML อย่าง IMG ก็จะได้ภาพดังนี้
ภาพที่ได้
เป็นยังไงบ้าง ครับพอจะเห็นหรือยังว่า Bit.ly นั้นมี API ที่น่าสนใจ ที่นักพัฒนาหลายคนยังไม่รู้ และผมก็แถมการแก้ข้อกังขาให้กับ นักการตลาดออนไลน์หลายๆ คนให้ทราบว่า Bit.ly หรือ Shorten URL นั้นมันสำคัญแค่ไหน ไปจนถึงความรู้ที่หลายคนรู้แต่มองข้ามอย่างการสร้าง QR Code ว่าทำไมต้องย่อ URL ก่อนสร้าง และความจริงนั้นมันสร้างง่ายแค่ไหน สแกนควรเจออะไร และจับ Track คนคลิกนั้น ไม่ยาก ทำได้สบาย
หวังว่าคงจะได้ประโยชน์กันนะครับกับ บทความนี้
[ปล. ถ้ามีการพิมพ์อะไร ผิดตกหล่นไปขออภัยด้วยนะครับ คงไม่มาแก้เพราะขี้เกียจ อย่าเอาไปด่าเหมือนโฆษณา Peptein นะ]