เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2557 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสร่วม Workshop webOS ที่ทาง LG ได้จัดขึ้น ณ โรงแรมดับเบิ้ล ทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท ทำให้ผมได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆเกี่ยวกับโทรทัศน์เลยครับ
โดยบรรยากาศภายในงานนั้น ทาง LG ได้นำ Smart TV ที่มีระบบปฏิบัติการ webOS พร้อมกับตัว Magic Remote ที่เป็นอุปกรณ์คู่ใจกับระบบปฏิบัติการดังกล่าวมาให้ทดสอบใช้กัน (ผมละทดสอบมันส์กระจายเลย ฮา…)
เมื่อเริ่มพิธีเปิดงานทางผู้จัดก็ได้กล่าวพิธีเปิดงาน เล่าที่มาที่ไปของการจัดงานในครั้งนี้ และให้ความรู้ในเทคโนโลยีโทรทัศน์สมัยใหม่อีกด้วยครับ คือ OLED TV ที่ความละเอียด และการแสดงภาพที่ชัดเจนมากกว่าโทรทัศน์ LED ครับ เพราะ โทรทัศน์ที่ใช้เทคโนโลยี OLED นั้น ที่จอของภาพจะมีพิกเซลที่สามารถกำเนิดแสงด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งหลอดไฟหรือสื่อนำ โดยแต่ละพิกเซลจะช่วยควบคุมแสงสว่าง และสร้างมิติตื้นลึกสุดสมจริงมากกว่า LED โดยทั่วไป
ตรงจุดนี้เองครับที่ทำให้การแสดงภาพที่ออกมานั้นสมจริงขึ้นมากครับ และทำให้เงาสะท้อนที่มาจากจอภาพนั้นลดลงไปมาก การแสดงผลที่สีดำก็ดำสนิทจริง ต่างจาก LED ที่เมื่อแสดงผลที่มีสีดำ จะไม่ดำสนิทเท่าเนื่องจากเทคโนโลยีการแสดงผลแบบเก่าที่ต้องใช้หลอดไฟในการกำเนิดแสงครับ ซึ่งภายในการบรรยายนั้นทางผู้จัดก็ได้เชิญให้ผู้เข้าร่วมงานทำการเปรียบเทียบจอทั้งสองจอโดยใช้แว่นส่องพระส่องกันให้เห็นความแตกต่างกันไปเลยครับ นอกจากนี้ เทคโนโลยี OLED ยังเพิ่มมาตรฐานของสีเข้าไปอีกสีหนึ่งจากปกติที่มีเพียงแค่ RGB (Red, Green, Blue) ก็ได้เพิ่มสี W (White) เพื่อให้การแสดงผลของจอภาพนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ และสีขาวยังช่วยให้การแสดงสีทำให้หลากสีมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากจะมีเทคโนลียี OLED แล้ว ทางผู้จัดยังได้ปล่อยของอีกอย่างมาให้ผู้เข้าร่วมงานสัมผัสด้วยครับ คือโทรทัศน์ 4K หรือ โทรทัศน์ Ultra HDTV ที่มีความละเอียดที่คมชัดสุดๆ รายละเอียดเล็กน้อยเช่น
ตัวอักษร ริ้วรอยหรือไรขนบนใบหน้าหญิงสาวก็เห็นกันแจ่มแจ้งเต็มอรรถรสนะครับ โทรทัศน์ Ultra HDTV ยังมีขนาดหน้าจอใหญ่สะใจมากครับ และพอผมได้ลองสวมใส่แว่นสามมิติเพื่อลองดูภาพจากโทรทัศน์เข้าไปด้วยแล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวผมนั้น ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมากครับ เพราะเราจะเห็นภาพที่ทะลุลอยเด่นออกมาจากจอภาพได้อย่างชัดเจนจริงๆ ให้ความบันเทิงได้ดีนะครับ (แต่เราต้องนั่งในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วยนะครับ เพราะบางมุมในการมองนั้นอาจจะทำให้เราไม่สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ดังกล่าวได้อย่างเต็มที่)
กลับมาที่ระบบปฏิบัติ webOS ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้กันครับ โดยหลังจากที่ผมได้สัมผัสกับระบบปฏิบัติการดังกล่าวแล้วพบว่า การทำงานนั้นค่อนข้างลื่นไหลมากครับ ในตัวของ Magic Remote เองก็สามารถตอบสนองเราได้อย่างแม่นยำ สั่งงานและควบคุมได้ง่ายอย่างกับใช้เมาส์ไร้สายอย่างไงอย่างงั้น ถัดมา
ในส่วนของแอพพลิเคชั่นนั้นผมพบว่ามีพอสมควรเลยทีเดียวครับ แต่หากเจาะจงเฉพาะที่เป็นแอพพลิเคชั่นของไทยเองแล้ว อาจจะยังมีไม่มาก (ในอนาคตผมคาดว่ามีเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอนครับ) แต่แอพพลิเคชั่นที่มีของไทยเรานั้น ผมรู้สึกว่ามันก็เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของเราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นดูหนังออนไลน์ แอพพลิเคชั่น CTH ที่ใช้สำหรับดูรายการของ CTH เป็นต้นว่ารายการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก รวมทั้งหนังต่างประเทศ การ์ตูน ซีรีย์ สารคดีอีกมากมาย
ในระบบปฏิบัติการ webOS นี้มีจุดเด่นอีกอย่างคือการสลับไปมาระหว่างคอนเทนต์เนี่ยละครับ ที่เวลาผมดูรายการใดรายการหนึ่งจากแอพพลิเคชั่นอยู่ แล้วผมสลับไปดูรายการโทรทัศน์ปกติซักพักนึง ทีนี้พอกลับมาที่แอพพลิเคชั่นเดิมผมสามารถดูต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ผมยังสามารถเปลี่ยนจากแอพพลิเคชั่นหนึ่งไปอีกแอพหนึ่งได้เลยโดยไม่ต้องกลับไปหน้าหลักหรือหน้าโฮม เพราะสามารถเรียกแถบแอพพลิเคชั่นหรือที่แอลจีเรียกว่า Launcher ซึ่งอยู่ตรงด้านล่างจอแล้วเราก็เลือกแอพที่ต้องการได้ทันที
ถัดมาในส่วนของ Web Browser นั้นอาจจะไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้ดีเท่าที่ควร เนื่องจากหากเราทำการเข้าเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์หนักๆในเวลาหนึ่งๆ ระบบจะทำการรีสตาร์ท Web Browser ทันที ราวกับว่าแรมได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว จึงต้องทำการรีสตาร์ทเพื่อเคลียร์แรมซักหนึ่งที จึงจะใช้ได้ต่อ ดังนั้นหากใครคิดจะใช้โทรทัศน์ในการท่องเว็บไซต์นั้น ควรเข้าเว็บไซต์ที่ไม่มีคอนเทนต์ที่หนักจนเกินไปจะดีที่สุดครับ แต่เราก็อย่าลืมนะครับว่านี่คือโทรทัศน์ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ดังนั้นไม่แปลกครับที่จะได้ผลออกมาเช่นนี้ เพราะโทรทัศน์มีหน้าที่ในการสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ใช้งาน มีหน้าจอที่ให้ภาพคมชัด ให้อรรถรสที่เหนือกว่า ไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการประมวลผลหนักๆ
สรุปโดยภาพรวมของงานนี้นั้นผมรู้สึกสนุก อบอุ่น และเป็นกันเองมากครับ (โดยเฉพาะการเล่นสมาร์ททีวีของผู้จัดงาน ที่ผมกระหน่ำเล่นไม่หยุดเลย ฮา…) อีกทั้งยังได้ความรู้ต่างๆมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีของโทรทัศน์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งผมต้องขอบคุณทาง LG ที่ได้เปิด Workshop ให้ผมสัมผัสเทคโนโลยีประสบการณ์ใหม่ๆของโทรทัศน์ด้วยนะครับ