ใน วันที่คุณเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวของคุณด้วยกำลัง ที่จำกัด และต่อสู้ฝ่าฟันมาจนเกิดเป็นธุรกิจขนาดย่อม SMEs ถึงวันที่คุณต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และติดปาก เช่น ถ้าต้องการค้นหาทุกสิ่งก็ Google, Bing และ Yahoo ถ้าอยากดื่มกาแฟนึกถึง Starbucks หรือ Coffee World ถ้าต้องการชมภาพยนตร์ในประเทศไทยต้องนึกถึง Major Cineplex, SF Cinema และ โรงหนังอื่นๆ ที่อยู่ตามเขตพื้นที่ธุรกิจที่ได้รับความนิยม
เมื่อเราคิดจะทำอะไรขึ้นมาแล้วนึกถึงชื่อร้านหรือเห็นสัญลักษณ์โลโกสินค้า นั่นคือแบรนด์ที่เราเห็นติดตา พูดติดปาก และได้ยินจนติดหู การแข่งขันที่ล้วนแต่คิดสโลแกนและแบรนด์ ให้ดังทั้งออฟไลน์และออนไลน์ดำเนินมานานจวบจนทุกวันนี้)คุณต้องการสร้างแบ รนด์ธุรกิจส่วนตัวของคุณให้เป็นที่รู้จัก ในโลกออนไลน์มีเครื่องมือเพียงไม่กี่ตัวที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่ง น่าจะเป็น Social Media ที่สามารถทำให้แบรนด์ของคุณ เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเน้นกลุ่ม ของผู้บริโภคในประเทศหรือต่างประเทศ Social Media ช่วยให้มองเห็นเป้าหมายและแบ่งกลุ่มให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มนั้นได้ทันที
เคล็ดลับที่จะใช้ประโยชน์จาก Social Media เพื่อสร้าง แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักจึงเป็นเหมือนศาสตร์ที่ควรมีติดตัว
ถ้าคุณต้องการให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก Social Media ช่วยสร้างโอกาสการเชื่อมต่อและช่วยเสนอธุรกิจของคุณให้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายนั้น อย่างน้อยเมื่อ คุณเดินถูกจุด เข้าถึงเป้าหมายบน Social Media แล้ว Profile ของผู้ประกอบการอย่างคุณหรือ Profile ของธุรกิจของ คุณจะเป็นจุดที่มองเห็นได้สะดุดตาและนำไปสู่ผู้ที่ต้องการบริการหรือคำตอบ จากเรื่องธุรกิจที่แบรนด์ของคุณกำลังทำ ซึ่งผู้ที่ต้องการบริการไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือค้นหาอย่าง Google มาลองผิดลองถูกเลย
Social Media มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นทั่วโลก ดังนั้นชีวิตที่ เราเป็นอยู่ในที่ทำงานล้วนแต่ต้องใช้ Social Media ในการ ติดต่อสื่อสาร เพราะอย่างน้อยการเล่นเกมบน Facebook ในเวลางานก็ยังมีโอกาสแวะทักทายผู้เล่นอื่น ซึ่งถ้าหากมอง กลับกันผู้เล่นอื่นที่เราทักทายหรือมีชื่อในลิสต์รายชื่อเพื่อนสนิทของเราก็ ล้วนมี Connection หรือลูกค้าของเราปะปนกันไป ซึ่งการใช้ Social Media จะทำให้เกิดอัตราเร่งของผลลัพธ์ของการกระจายที่กว้างขึ้นในเวลารวดเร็ว
แต่มีบางกระแสที่อ้างว่าการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ผ่าน Social Media นั้นไม่ได้ผล ซึ่งดูแล้วกลุ่มคนที่อ้าง ดังกล่าว มีจำนวนไม่น้อย ทั้งที่ร้อยละ 80 เป็นเรื่องที่น่าตลก เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นถกปัญหาเกี่ยวกับ “การสร้างแบรนด์ ผ่าน Social Media ไม่ได้ผล” ผ่าน Twitter แต่ก็เป็นการดีที่คำถามและประเด็นในจุดนี้ทำให้มีข้อมูลสำหรับวิเคราะห์คน ที่เชื่อว่า Social Media ไม่มีความสำคัญและไม่สามารถปลุกปั้นแบรนด์ได้ เป็นโจทย์ต่อไปที่ทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้กลับมาเชื่อ ในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ธุรกิจของคุณ หรือพูดให้ง่ายคือ ทำอย่างไรจะเปลี่ยน “ความคิด” ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นคำถามปัจจุบันและมีผลลัพธ์ไปสู่อนาคตของโลกธุรกิจออนไลน์
รูปแบบต่อมาคือ ทำอย่างไรให้เราเป็นที่นิยม ถ้ามองในเรื่อง ของการสื่อสารผ่าน Social Media ขั้นพื้นฐานอย่าง Facebook ที่มี Fan Page และ Group ปล่อยให้ผู้เป็นสมาชิกที่สนใจในกลุ่มนั้นเข้ามาขับเคลื่อนวิจารณ์พร้อมตั้ง คำถามและตอบกันเอง และเครื่องมืออีกตัวก็คือ Twitter ที่ต้องใช้ศิลปะในการกำหนดประโยคจากอักษร 140 ตัวเพื่อบ่งบอกสถานะให้แก่ผู้ติดตามอ่าน Tweet ของแบรนด์แล้วเข้าใจ เกิดความสนใจและตั้งคำถาม
แบรนด์ของธุรกิจที่ดังล้วนเกิดจากประสบการณ์ที่พบเห็น หรือได้ยินจากภาพสัญลักษณ์แบรนด์ (Logo) และประโยคที่ คุณสร้างเกี่ยวกับความหมายและลักษณะของแบรนด์ไม่ว่า จะออกมาในแง่ร้ายหรือแง่ดีในสายตาของผู้บริโภค แต่อย่างน้อยๆ ผู้บริโภคจะจดจำติดปากและบอกต่อแก่คนอื่นต่อไป และการบอกต่อไม่ ว่าเรื่องดีหรือไม่ดียังเป็นผลลัพธ์ที่ มีประสิทธิภาพ เพราะเสียงตอบรับกลับมาของทุกกลุ่ม คือความนิยม ซึ่งจะเป็นการดำเนินโจทย์ต่อไปว่าทำอย่างไร ที่จะให้ผู้บริโภคมองเห็นด้านบวกมากขึ้น และวิธีทั้งหมดนี้ Social Media สามารถช่วยได้
แบรนด์ธุรกิจส่วนตัวของคุณก็เช่นกัน วิธีการรักษากลุ่ม ผู้บริโภคที่มองเห็นในด้านดีและนิยมผลิตภัณฑ์และบริการ ของคุณ คนกลุ่มนี้จะเป็นเหมือนฐานเสียงของสมาชิกที่มีประสบการณ์ที่ดีกับบริการหรือ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของคุณ และการกระจายข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ จะง่ายขึ้นเพราะมีกระบอกเสียงจากคนกลุ่มนี้อย่างสม่ำเสมอ จงรักษา กลุ่มสมาชิกไว้ให้ดีที่สุด อย่าปล่อยให้หลุดมือทีเดียว เพราะคนเหล่านี้จะช่วยแบ่งปัน (Share) เนื้อหาส่วนที่ดีให้แก่สมาชิกกลุ่มอื่นเป็นวงกว้าง นอกจากนี้คุณจะทราบขอบเขตและข้อจำกัดของการแบ่งปัน (Share) เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งปันที่สร้างความรำคาญให้กับ ผู้ใช้งานที่อาจจะเกิดจากการแบ่งปันหรือกระจายข่าวสาร บ่อยเกินไป หรือที่เรียกว่า Over Share จนสร้างความน่ารำคาญ อาจจะเป็นผลเสียต่อบริการและแบรนด์ธุรกิจของคุณ
การรักษาเครดิตของตัวคุณเป็นสิ่งที่จำเป็นกับการสร้าง แบรนด์ของธุรกิจส่วนตัว หากมีคนที่รู้จักบริการของคุณแล้ว พวกเขาจะเข้าไปดูประวัติของคุณโดยทันที Social Media คือเครื่องมือที่วิเศษ แต่อีกนัยหนึ่งคือเครื่องมือที่อันตราย ใครจะไปทราบว่าหากวันหนึ่งคุณเป็นนายกรัฐมนตรี Time-line ทั้งหมดที่อยู่บน Twitter ของคุณยังคงถูกเก็บไว้ และหาก มีผู้สนใจในแบรนด์ธุรกิจที่คุณทำ หรือสมมติว่าสนใจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณอาจจะเข้าไปพบ Time-line ที่ดูจะ ไม่เหมาะไม่ควร ดังนั้น Social Media คือสิ่งที่เก็บบันทึก การกระทำหรือสมุดระบายความในใจย่อมๆ หากว่าไม่อยากจะ มีปัญหาเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ และควรจะระวังตัวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์บนโลกออนไลน์บ้างก็ดี เพราะใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่ง แบรนด์ของคุณหรือตัวคุณเองอาจจะดังเกินหน้าคู่แข่งจนเกิด การกลั่นแกล้งก็เป็นได้
ส่วนขั้นตอนที่จะพิสูจน์การสร้างแบรนด์ธุรกิจของคุณนั้น อาจต้องใช้ความพยายามมากที่จะทราบว่าคุณติดตาม (Follow) ใคร หรือกลุ่มไหนอยู่ แล้ววิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านั้นจากบทสนทนา ต่อมาคุณต้องรู้ว่าคุณควรจะต้องอ่าน Blog อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ของคุณ และเมื่อวันหนึ่งที่คุณมีผลลัพธ์ ที่ดีจากการวิเคราะห์ข้อมูลในมือ คุณต้องกลับไปคิดว่าจะนำข้อมูลมาเปลี่ยนเป็นการบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
ส่วนตัวผู้เขียนแล้ว กลยุทธ์ที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดคือการ แบ่งปัน (Share) ความรู้และทัศนคติผ่าน Social Media ภายใต้แบรนด์ธุรกิจของคุณ ยิ่งใช้สัญลักษณ์ของแบรนด์ ผนวกกับความรู้เรื่องธุรกิจของคุณในแง่ดีและเป็นประโยชน์ หรือปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาที่ผู้สนใจความรู้จะต้องฟังคุณ และจะดีมากขึ้นหากการบอกต่อจากผู้ที่คุณ Share จะเกิดความเชื่อถือในแบรนด์ของคุณ และกลุ่มคนเหล่านั้นจะส่งต่อ Share ไปสู่กลุ่มอื่นที่ต้องการแก้ปัญหา ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ อีกทางให้กับแบรนด์โดยแทบไม่เสียค่าใช้จ่าย
วิธีการไม่ยากเกินไปที่ยกตัวอย่างให้ทดลองกัน
ติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่าน Twitter หรือ Facebook และตอบคำถามต่างๆ ผ่าน Fan Page
การตอบคำถามหรือให้สัมภาษณ์ผ่าน LinkedIn (เว็บไซต์ Social Media ตัวใหม่ที่คาดว่าจะมาแรงแซงเว็บไซต์หางานต่างๆ) LinkedIn นั้นถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ใช้บริการที่มั่นใจในบริการว่าตนคือ “มืออาชีพ” (Professional) ที่ต้องใช้เครือข่ายที่มีอยู่ในการสร้างช่องทางของผลงานหรืองาน เรียกได้ว่าเป็น Social Media สำหรับการสร้างอาชีพให้แก่ผู้เล่น LinkedIn และสำหรับบริษัทที่ต้องการหาพนักงานและผู้ชำนาญการก็สามารถวิ่งเข้าทางช่องทาง LinkedIn ได้เช่นเดียวกัน
คุณสามารถใช้ LinkedIn ค้นหาประวัติโดยใช้ Keyword, พิจารณาประวัติของสมาชิกใน LinkedIn แต่ละคน ซึ่งรวมไปถึงประสบการณ์และคำแนะนำตัวของเจ้าของประวัติ, มองหาเครือข่ายของพวกเขาเพื่อเป็นช่องทางในการพบคุณสมบัติเหมาะสมมากขึ้นจาก เครือข่ายของพวกเขาอีกที, ติดต่อพวกเขาโดยการร้องขอข้อมูลที่ละเอียดเพิ่มเติม, พิจารณาคำถามที่พวกเขาได้ตอบเพื่อศึกษาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวก เขา ซึ่งประวัติที่พบใน LinkedIn นั้นเปรียบเหมือน Resume ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยข้อมูลที่เห็นได้หมดตั้งแต่การศึกษา ประวัติการทำงาน รางวัล ผลงาน และข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับผู้หางานสามารถเพิ่มข้อมูลมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนที่ไม่ได้ เขียนลงในเอกสารของประวัติการทำงาน
นอกเหนือจาก Facebook, Twitter และ LinkedIn แล้ว ยังเหลือวิธีการง่ายๆ ที่ช่วยโปรโมตแบรนด์ของคุณผ่าน Social Media อีกหลายช่องทาง ได้แก่ การนำเสนอความรู้แนวคิดบน Presentation ของคุณผ่าน SlideShareใช้วิธีการแก้ปัญหาเชิงเทคนิคโดยการ Upload Video ผ่านเว็บไซต์ YouTube เขียน Blog ที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจและมีรายละเอียดที่ดีต่อการนำไปใช้เป็นข้อมูล
เพียงวิธีที่กล่าวมาแบรนด์ของคุณก็จะเป็นที่รู้จักผ่าน Social Media ในเวลาอันสั้น
บทความนี้ถูกตีพิมพ์ ลงนิตยสาร E-commerce magazine June No.138