เทคโนโลยีโลกเสมือนหรือ Augmented Reality ที่เหมือนจะเป็นลายเซ็นต์ของเว็บไซต์ Daydev ไปโดยปริยายจากหนังสือ iMarketing10.0 ซึ่งหากว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม หรือแคมเปญที่เล่นมันจะยุ่งยากหรือเปล่า มันคืน ROI ให้แก่ผู้ตัดสินใจใช้มันสร้างแคมเปญบ้างไหม อันที่จริงแล้วครึ่งปีหลังอาจจะไม่ค่อยเห็นบทบาทของเจ้า Augmented Reality มากนักแต่ในวงการนักพัฒนา Augmented Reality ยังคงมีงานวิจัยที่กว้างขวางในทางวิทยาศาตร์เชิงลึก และด้านธุรกิจส่งเสริมการขาย และการตลาดอยู่
หากจะถามว่า Augmented Reality เป็นหนึ่งองค์ประกอบของ Social Media ที่มีหน้าที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคประทับใจ ในแวดวงธุรกิจอยู่บ้างไหม คงต้องขอตอบว่า ณ ตอนนี้ยังคงเป็นเหมือน Social Media ที่มาช่วยสร้างแคมเปญการตลาดให้ดูน่าสนใจ โลกเสมือนจริงที่ยังไงเสียในอนาคตก็คงหนีมันไม่พ้นยังคงมีความต้องการศึกษาจากผู้ให้บริการธุรกิจต่างๆ เพื่อที่จะหาไม้ตายจากการสร้างโลกเสมือนจริงนี้มาใช้ให้โดดเด่นเกินหน้าคู่แข่ง เคล็ดลับแบบไหนที่จะสามารถตีโจทย์ออกได้ว่า Augmented Reality นั้นจะทำการตลาดออนไลน์ได้ผลพอๆ กับการใช้ Twitter, Facebook และ YouTube มากกว่านำมันมาพัฒนาเกมแบบโลกเสมือนให้เล่น แล้วแฝงโฆษณาลงไป เอาเป็นว่าผมจะมาทบทวน และเพิ่มส่วนเสริมเกี่ยวกับเจ้า Augmented Reality ให้กับผู้อ่านในส่วนขยายที่แตกแขนงออกจากหนังสือ iMarketing10.0 ก่อนก็แล้วกันครับ
ตีโจทย์ให้ออก มองนวัตกรรมให้ขาด
ถ้าคุณไม่รู้จักความหมายของ Augmented Reality หรือโลกเสมือนจริงที่เหมือนการสร้างชั้นข้อมูลขึ้นมาซ้อนทับความเป็นจริง หรือยังไม่เคยเห็นว่ามาก่อนว่า Augmented Reality คืออะไร ให้ไปอ่านเนื้อหาก่อนหน้าที่บทความนี้ เริ่มต้นกับ Augmented Reality หรือซื้อหนังสือ iMarketing10.0 มาอ่านในบทของผมคร่าวๆ ให้พอนึกภาพและจิตนาการได้พร้อมๆกันก่อนครับ แล้วเราก็มาเริ่มวิเคราะห์กันดีกว่าว่าเราควรจะใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ให้ได้ผลนั้นต้องทำยังไงบ้าง
แคมเปญที่เป็น เกม นี่แหละพระเอกตัวจริง
เกมคือแคมเปญการตลาดบนความสนุกที่เทคโนโลยี Augmented Reality นั้นมักถูกหยิบไปใช้ หากเป็นเกมธรรมดาที่ปรากฏบนเว็บไซต์ หรือบน Facebook ก็สามารถเล่นออนไลน์ไปจนจบได้ แต่ถ้ามี Augmented Reality ขึ้นมาเมื่อใด ให้รู้ไว้ว่าโลกออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณ ต้องมีตัวคุณที่อยู่ในโลกจริงๆ เข้าไปผสมผสานกัน เช่นการเล่นในบางครั้งต้องใช้ สิ่งพิมพ์พวกหนังสือ กล่องของเล่น หรือสติกเกอร์มาช่วยเล่น ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องลงทุนไปซื้อมาเพื่อนำมาเล่น ถามว่ามันยากไปไหมที่ต้องไปหา สินค้า หรือหนังสือมาเล่นร่วมกับ เว็บไซต์ แล้วลูกค้าไม่ได้อะไรนอกจาก ความตื่นเต้นช่วงแรก แล้วก็ชินตา พาลเบื่อหน่ายไป, นั่นแหละครับประเด็นที่ผมจะบอก หากขั้นตอนมันจบแค่ผลคะแนน แล้วก็รอฟังผลคนที่ได้มากกว่า ในบอร์ด High Score แล้วลุ้นรางวัล แบบนั้นไม่ต้องใช้ Augmented Reality ก็ได้ รางวัลที่ปรากฏหลังจากซื้อสินค้า และบริการมาเล่นร่วมกับ Augmented Reality นั้นควรเป็นรางวัลระดับ Premium หรือรหัสลับเฉพาะที่สามารถเห็นได้ผ่าน Augmented Reality เพียงทางเดียว ด้วยความที่เป็น Exclusive Reward เท่านี้เอง ผู้บริโภคจะไม่ลังเลเลยที่จะ รีบไปหาหนังสือ ไปซื้อสินค้า มาเล่นหน้าเว็บผ่าน Augmented Reality ของคุณ
อีกตัวอย่างที่น่าประทับใจในรูปแบบของ Augmented Reality ที่เป็นเกมก็คือ เกม Ball Invasion ของ 13th Lab ที่เหมือนกับจำลองให้เราเป็น สถานีสำรวจอวกาศ NASA โดยใช้เจ้าเครื่อง iPad2 ที่มีกล้องด้านหลังสแกนหา วัตถุดวงดาว 3 มิติ แล้วทำการทำลายมันก่อนที่มันจะวิ่งเข้าหาตัวคุณ เพียงกวาดเจ้า iPad2 ของคุณออกไปรอบๆ ตัวคุณเท่านั้น เป็นสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำของแคมเปญตัวนี้ อีกทั้งสร้างแบรนด์ของ 13th Lab ให้เป็นที่น่ารู้จักมากขึ้นอีกด้วย
ชมวีดีโอกันหน่อยดีกว่า สำหรับเจ้าเกม Ball Invasion
แคมเปญของรัฐบาลรณรงค์เรื่องความปลอดภัย
รัฐบาลของ Moscow ได้ลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชัน Augmented Reality ขึ้นมาบนสมาร์ทโฟน สำหรับรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะว่าเจ้าป้ายเตือนสติก่อนข้ามถนน นั้นคนไม่ค่อยมอง อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็เลยสร้างลูกเล่นให้เกิดประชาชนเกิดความสงสัย แล้วค่อยเสริมความรู้เข้าไป เป็นแบบไหนเหรอครับ ก็คือว่า รัฐบาลฯ จะทำการพิมพ์เจ้า QR Code ติดไว้ที่จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ทุกแห่งทั่วเมือง Moscow เพื่อให้ผู้ที่เดินผ่านไปมาสงสัย แล้วทำการสแกนดู พอสแกนแล้วจะติดตั้งแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนทันที วิธีใช้งานก็ง่ายแสนง่ายครับแถมได้ผลด้วยนั่นคือ ป้ายเตือนภัย และสถิติที่เกิดขึ้นในตำแหน่งนั้นปรากฏเป็น ไอคอน สัญลักษณ์มากมาย ลอยอยู่บนหน้าจอตามพิกัดจริงของ GPS เลยครับ ซึ่งแคมเปญนี้ใช้ได้ผลจริงครับแต่เฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนนะ
นอกจากสัญลักษณ์ที่ลอยบนหน้าจอแล้วยังมี วีดีโอ และ ข้อมูลเนื้อหาที่บอกถึง สาเหตุ และสถิติของอุบัติเหตุ ให้ได้ทราบกันอีกด้วย ว่าแล้วประเทศไทยน่าจะนำมาใช้เป็นลูกเล่นซักนิดนะครับ แม้กลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจะน้อยอยู่ก็ตามแต่อนาคต อาจจะมีเยอะขึ้นก็ได้ ดีกว่าซื้อกล้องปลอมมาติดเฉยๆบน สะพานลอยนะ
วีดีโอสาธิตแคมเปญตัวนี้ครับ
การเมืองบนโลกเสมือนจริง
ใช้กับประเทศไทยไม่ได้ ถ้าจะใช้กับการเลือกตั้งในประเทศไทยได้ อาจจะต้องใช้ Service ThaiQR ของผมครับ โปรเจ็คเปลี่ยนมุมมองชิ้นล่าสุดของ Daydev เว็บไซต์ ThaiQR.com แต่สำหรับการเมืองในประเทศเยอรมัน ในเมือง Berlin พรรค The Green Party of Berlin ได้นำ Augmented Reality มาผสมกับการเมือง และการหาเสียงได้อย่างลงตัว โดยผู้ที่สนใจนั้นต้องทำการดาวน์โหลดติดตั้งแอพพลิเคชันบน iPhone ก่อนจึงจะเล่นแคมเปญหาเสียงผ่านโลกเสมือนจริงได้ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวมี 2 แบบหลักๆ คือ
แบบที่ 1 เป็นป้ายหาเสียงกลางสี่แยกไฟแดงที่ หากผู้ที่สนใจจะฟังนโยบายต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันแล้วส่องไปที่ป้ายหาเสียงจะปรากฏ วีดีโอ ที่ประกอบไปด้วยสุนทรพจน์ของหัวหน้าพรรค The Green Party of Berlin ให้ได้ฟัง และแบ่งปันกัน
แบบที่ 2 นั้นเป็นการให้ผู้ใช้งานแอพพลิเคชัน ที่เห็นด้วยกับนโยบายลักษณ์โลกนั้น มาเล่นกิจกรรมด้วยคือการระบุพิกัด สถานที่ที่ต้องการให้พรรค The Green Party of Berlin เข้าไปแก้ไข
เหมือนการส่งคำร้องเรียนแหละครับ แต่ล้ำหน่อยตรงใช้ POI ที่เป็นพิกัดเสมือนที่มีเนื้อหาอยู่ด้วยเหมือนในแอพพลิเคชัน Layar มีอยู่ ทราบหรือไม่ว่าตอนนี้มีคนระบุพิกัดให้พรรคนี้จำนวนมากแล้วนะครับไม่เชื่อดูภาพสิ
โลกศิลปะเสมือนในมือคุณ
หอศิลป์ ใน UK. ได้มีการพัฒนาโครงการ XYZ ที่พัฒนาโดย Sarah Staton และ Chris Hudson มาเล่นแคมเปญดีๆ ส่งเสริมศิลปะ โดยวางกราฟิกสัญลักาณ์ หรือที่เรียกว่า Marker ไว้ตามสถานที่รอบๆ หอศิลป์ ให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้สแกน Marker เพื่อได้เห็น ปติมากรรมจำลอง 3 มิติ ที่ใช้นำแสดงในหอศิลป์ปรากฏให้เห็นผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน
ขายของผ่าน Augmented Reality
อันที่จริง มันไม่ใช่การนำ Augmented Reality มาใช้ในการขายของ หรือตัดเงินผ่านระบบ Augmented Reality หรอกครับ แต่เป็นการนำสัญลักษณ์ หรือตราสินค้าที่ใช้ใน Augmented Reality หรือ Layer ชื่อดังๆที่อยู่ในแอพพลิเคชัน Layar มาขายเป็นสินค้าจริงมากกว่า
แน่นอนว่า LCPlush Anywhere เป็น Layer หนึ่งบน Layar ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีคนใช้มันสแกนเล่นแคมเปญกับมันแต่ที่แปลกหน่อยคือ มีการขายสินค้าผ่าน http://m.layar.com/layers/lcplusrel ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน แล้วตัดเงินพร้อมรอรับสินค้าได้เลย แค่นี้ก็จะเห็นว่าถ้าทำ Augmneted Reality ให้เป็นที่โด่งดง และคนรู้จักเยอะ สินค้าจริงๆที่สร้างขึ้นก็ต้องขายได้แน่นอน
แม้ว่าเทคโนโลยี Augmented Reality ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ และเหมาะกับวงการวิทยาศาสตร์มากกว่า วงการธุรกิจ แต่จากเหตุผลและตัวอย่างแคมเปญข้างต้นที่กล่าวมา น่าจะสร้างโอกาสความเป็นไปได้ที่ Augmented Reality จะเป็นเครื่องมือการตลาดในอนาคตที่ทรงประสิทธิภาพ
คุณว่า แนวคิด และเทคโนโลยีตัวนี้มันห่างไกลความเป็นจริงหรือเปล่า? การนำมันมาใช้งาน ยังซับซ้อนเกินไปหรือไม่? สำหรับผมแล้ว ยังมีงานวิจัยหลายตัวที่เกี่ยวกับ Augmented Reality ที่ยังศึกษาและอยู่ในมือ และก็พอมองออกถึงข้อดี และข้อจำกัดของมัน อนาคตเราจะรู้จักมันมากขึ้น และ Augmented Reality นั้นจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสร้างรายได้ และผลสำเร็จในวงการธุรกิจ และวงการอื่นๆ ได้ในอนาคต คุณเชื่อผมไหม?
ข้อมูลอ้างอิง : YouTube, socialmediaexaminer, WebPro new
ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีดี ช่วยผมทำงานได้มากเลยครับ.
อยากทราบว่าพอจะรู็มั้ยค่ะว่า มีหนังสือการทำเทคนิค AR บนโลกนี้มั้ยค่ะ อยากได้มากเลยค่ะ ไม่ทราบมีใครรู้บ้างมั้ยค่ะ หาซื้อได้ที่ไหนบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ
ตอนนี้ ทางบริษัทผมก็พัฒนาตัวนี้อยู่ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=bVANDJdaLgo
เก่งเน๊อะ อิอิ ^^
สนใจเหรอ
ตัวอย่าง vdo ในบทความล่างๆ ผมว่าเค้าใช้ GPSช่วยนะครับ ส่องไปที่อาคารสถานที่ต่างๆ ตำแหน่งพิกัดGPS อะไรแบบนี้.
คงไม่สามารถจะทาบกับตัวอาคารแสดงผลได้เป๊ะหลอก vdoนำเสนอแค่ทำให้ดูออกมาดีขึ้น
@Kengdesign Kengkeng ใช่ครับ LBS กับ Augmented Reality ใช้คู่กันอย่าง Junaio และ Layar ไงครับ.
ใครรู้บ้าง บริษัทที่ัรับทำ AR.
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=QgQWZsHlahE