กระแสที่มาแรงของ Social Game หรือเกมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ กับรุ่นอายุของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปกำลังทำให้ พีซี เกมเริ่มหมดความสำคัญ ตลาดของผู้เล่นต้องมีการเปลี่ยนไปตามช่วงอายุของคน อุตสาหกรรมเกมกำลังเปลี่ยนไปในปลายปี 2011 นี้ เมื่อยอดการผลิตเกมบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี นั้นกำลังตกต่ำลง
แม้ว่าจะมีหลักฐานการันตีว่า ธุรกิจด้านเกม และการแข่งขัน E-Sport หรือการแข่งขันกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้เครื่องเกมเป็นตัวขับเคลื่อนนั้นกำลังเติบโต และได้รับความนิยมอย่างถึงขีดสุด และหลายสถาบันที่ส่งเสริมธุรกิจเกม และกีฬา E-Sport จะยืนยันกันเป็นเสียงเดียวว่า ประสบความสำเร็จ อย่างล้นหลาม และธุรกิจนี้ไม่มีวันตาย
หลายเสียงหลังจากที่ผู้เขียนได้นพเสนอ ประโยคที่บอกว่า PC Game is Dead ที่ผู้เขียนได้จำกัดความไว้ในข้างต้นผ่านมุมมอง และบทวิเคราะห์อุตสาหกรรม ในส่วนของเทคโนโลยี ด้านเกม และเกมออนไลน์ บนแพลตฟอร์มของเครื่องพีซี ณ จุดนี้ผู้เขียนต้องออกตัวก่อนว่า การสื่อสารบางอย่างน่าจะเป็นความเข้าใจผิด ประโยค PC Game is Dead ที่มีคำว่า is Dead นั้นไม่ได้แปลว่า กำลังจะตาย ประโยคดังกล่าวเป็นสำนวนที่มาจาก บทความของ Walter Kaufmann ได้พูดไว้ในหัวข้อ God is Dead ซึ่งเป็นสำนวนที่มีบริบทของความหมายที่ไม่ได้ถูกแปลตรงๆว่า พระเจ้าตายแล้ว แต่หมายถึง พระเจ้ากำลังถูกละเลย และให้ความสำคัญน้อยลง ดังนั้น PC Game is Dead ที่ผู้เขียนพยายามจะนำมาเล่นสำนวนนั้น มีความหมายที่ใกล้เคียงกับคำว่า Obsolete หรือ กำลังถูกลดความสำคัญลง นั่นเอง
ความตกต่ำของเกมบนพีซี
หากตัดในส่วนของ แพลตฟอร์มเกมคอนโซล ที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงาน ที่เน้นมีเครื่องเกมคอนโซลติดไว้ที่บ้านเป็นเครื่องเล่นเกม ยามพักผ่อน และ ถือเป็นไลฟ์สไตล์เก๋ๆ เอาไว้อวดเพื่อนฝูงแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่เกมที่ถูกพัฒนาให้อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ที่มีทั้งแบบต้องติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์ และรูปแบบที่ต้องเล่นออนไลน์กับเพื่อนในอินเทอร์เน็ต แม้ว่าหลายส่วนที่ทำธุรกิจผู้จำหน่ายเกม หรือให้บริการเกมออนไลน์ ในประเทศไทยนั้นจะยืนยันว่ากำลังไปได้สวย และไม่มีทางตกต่ำแน่นอน ซ้ำยังตอกย้ำความสำเร็จด้วยการจัดประลอง E-Sport ขึ้นมากมายหลาย
แต่นั่นเป็นแค่มุมมองเพียงฝ่ายเดียวของทวีปเอเชีย เพราะกลุ่มกีฬา E-Sport และเกมบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีนั้น ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา ต่างประสบปัญหาหลายอย่างตั้งแต่ปัญหาเรื่องเกมผิดลิขสิทธิ์ สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กลุ่มผู้สนใจเป็นกลุ่มของเด็กเล็ก และวัยรุ่นที่กำลังซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นั้นยังมีจำกัด เหล่าเกมเมอร์ที่เป็นประเทศ Geek หรือติดตามเทคโนโลยีจริงๆ เท่านั้นที่จะติดตาม การอัพเกรดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่ราคาสูงขึ้น ทำให้ยอดขายของตัวเกมนั้นตกต่ำลง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนพัฒนา ที่สวนทางกับราคาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่สูงขึ้น ถ้าต้องการเล่นเกมราคา 299 บาท ทำไมเราต้องเสียค่าอัพเกรทเครื่องพีซีเกือบ 10,000 บาท หากแนวคิดนี้ผุดขึ้นในปี 2009-2010 อาจจะมีคำตอบมากมาย ในเรื่องของความสวยงาม และประสิทธิภาพของการประมวลผลกราฟิก และรูปแบบการเล่นของเกมที่สมจริง เป็นส่วนประกอบ แต่ทราบหรือไม่ว่าจุดเปลี่ยนของเทรนด์ และธุรกิจนั้นได้พลิกแพลงขึ้นมากในช่วงปลายปี 2011 เมื่อรายงานวิจัยด้านเทรนด์ และบุคคลได้ระบุว่า กลุ่มวัยรุ่นในช่วงอายุ 18-29 ปีนั้นได้ปรับระดับขึ้นกลายเป็น 30-50 ปี จากกลุ่มที่เป็นเกมเมอร์ และ นักเล่นเกมตัวจริงต่างก็ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และการดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามแนวทางทั่วไปของสังคม เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเหล่านั้นเข้าสู่วัยทำงาน ค่านิยมในเรื่องของไลฟ์สไตล์เครื่องคอนโซล กลับเติบโตขึ้น แต่ค่านิยมของเกมคอมพิวเตอร์พีซีกลับตกต่ำลง ช่วงเวลาที่เคยเล่นเกมจากเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีได้หายไป กลายเป็นเวลาทำงานซะส่วนมาก เกมที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนในยุคที่เทรนด์เปลี่ยนไปนั้น ค่านิยมของพวกเขาได้ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และไลฟ์สไตล์ซะเอง
เครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นสิ่งที่พวกเขาใช้เวลาอยู่มากพอๆ กับการทำงาน เพราะความสะดวกในการเปิด และปิด มากกว่าที่จะต้องปิดโปรแกรมที่ทำงานทั้งหมด เพื่อขอพื้นที่หน่วยความจำที่สูง สำหรับเปลี่ยนหน้าจอเล่นเกม นอกจากจะพบกับเสียโอกาส และค่าเสียเวลาในโลกธุรกิจแล้ว ยังต้องเสียความน่าเชื่อถือในจรรยาบรรณของการทำงานให้แก่องค์กรที่ว่าจ้าง ทำให้กลุ่มคนที่เปลี่ยนค่านิยม นั้นต้องหันไปบริโภคเกมที่อยู่ในรูปแบบ Casual หรือเล่นฆ่าเวลาที่มีรายละเอียดไม่ซับซ้อนเป็นส่วนใหญ่
เกมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ค่านิยมเรียบง่ายที่กำลังตอกย้ำความตกต่ำ
แน่นอนว่า Facebook ในตอนนี้ น้อยคนนักคงไม่รู้จักเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมตัวนี้ เว็บแนวคิดเรียบง่ายที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงคำว่า Social Network หรือเครือข่ายสังคมที่แท้จริง คนทั่วโลกต่างใช้เจ้า Facebook ตัวนี้ติดต่อสื่อสารกัน ทราบหรือไม่ว่าพระเอกตัวจริงที่ทำให้ Facebook เติบโตได้รวดเร็วนั้นก็คือ เกม นั่นเอง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Farmville ที่ตอนนี้บริษัท Zynga ได้ออกมาพัฒนาเป็นธุรกิจที่เกมออนไลน์ที่ใช้ Facebook และเครือข่ายสังคมออนไลน์ตัวอื่นๆ เป็นแพลตฟอร์มธุรกิจของตนผ่าน การทำสินค้าเสมือน Virtual Goods และ โมเดลธุรกิจการซื้อขายไอเท็มผ่าน Facebook Credit นั่นเอง
ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงปีตอนนี้มีเกมหลายเกมที่เริ่มหันไปพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ Facebook และ Google+ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เมื่อประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ตลาดเกมบนเครื่องพีซีต่างมียอดขายที่ตกต่ำลง หากจะพัฒนาระบบเกมให้ดูล้ำสมัย กราฟิกสวยงามสมจริง มันคุ้นค่าหรือไม่กับการที่ต้องทำตัวให้ผู้เล่นมาง้อ ในสถานะที่ผู้เล่นเองก็รู้ตัวว่าย่ำแย่เช่นกัน
หลายบริษัทเริ่มหาทางออกให้แก่ตนเอง โดยการลดมารฐานของตัวเกม รายละเอียดและระบบที่ซับซ้อนให้ดูเบาบางลง เรียบง่ายลงเพื่อรองรับการแสดงผลผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook เป็นส่วนใหญ่ เพราะหากประเมินจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook แล้ว มีเหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นจะเข้าถึงตัวเกม ในถานะเกมพักสมอง หรือ Casual Game ฆ่าเวลาที่เล่นสนุกเพลิดเพลินกับกลุ่มเพื่อนในเครือข่ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนการทำการตลาดมากมายอะไรเหมือนการขายเกมบนพีซี เพราะพวกเขาไม่ต้องอัพเกรดหรือปรับรุ่นเครื่องของพวกเขาเลยเพียงแค่มีโปรแกรมเว็บบราวเซอร์สำหรับท่องอินเทอร์เน็ต ก็เพียงพอแล้ว
การยืนบนไหล่ของยักษ์ วิสัยทัศน์ของ EA
Electronic Arts หรือ EA บริษัทประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจับ The Sims Social เกมออนไลน์บน Facebook ที่ดัดแปลงเกมชื่อเดียวกันที่พัฒนาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีมาเป็นเวลานาน ในตอนนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมเล่นเกม The Sim Social นี้มากกว่า 22 ล้านรายแล้ว และมีท่าทีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การยอมลด สเปคในการพัฒนาเกมบนเครื่องพีซีของ EA แล้วมาทำเกมที่เรียบง่ายกราฟิกเบาๆ ผ่าน Facebook หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ถือว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ดีทีเดียว EA สามารถมองสถานการณ์ในช่วงย่ำแย่ของสหรัฐฯ และแนวโน้มในตลาดของเกมออนไลน์ ที่กลุ่มผู้เล่นเกมนั้นไม่ใช่เด็กในประเทศใดประเทศหนึ่งมาเล่น แต่เป็นกลุ่มผู้เล่นทุกเพศทั่วโลก ทำให้ The Sim Social เป็นเกมยอดนิยมบน Facebook และยังเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ EA อีกด้วย โมเดลของธุรกิจที่ EA ใช้ก็คือการเจริญรอยตามเกมรุ่นพี่อย่าง Farmville และ City Ville ของบริษัท Zynga แม้ว่าในตอนนี้ Zynga จะยังคงกินส่วนแบ่งการตลาดที่สูงกว่า EA อยู่มากกว่า 70% แต่รูปการแบบนี้ The Sim Social ของ EA อาจจะเป็นเกมที่จะทำให้ Facebook นั้นเกิดภาวะ ที่นาร้าง ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ เพราะเนื้อหาของตัวเกมที่สุดแสนจะเล่นง่าย อีกทั้งผู้เล่นสามารถเข้าเล่นได้โดยไม่ต้องห่วงในเรื่องอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง
แค่นี้ EA ก็น่าจะมองเห็นลู่ทางมากมายที่จะเปลี่ยนแนวคิดในการหาเครื่องคอมพิวเตอร์สเปค แรงๆ ราคาสูง เอ็นจิ้นต้นแบบในการพัฒนาเกมดี กับระบบประมวลผลที่รวดเร็วเหลือเกินในการสร้างเกม อีกทั้งต้องวางแผนในการทำการตลาดเพื่อหา ลูกค้า หรือผู้เล่นมาซื้อเกมของตน แต่เปลี่ยนมาจับเกมกราฟิกเรียบง่ายที่ ลดรายละเอียด และ ยังเข้าเล่นกับเพื่อนผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อีกทั้งยังทำธุรกิจ ซื้อขายไอเท็มของตัวเกมผ่าน Facebook Credit และไม่ต้องทำการโฆษณามากมายอะไร เพราะแค่อยู่ในเครือข่ายสังคมยังไงซะผู้เล่น จะเป็นคนบอกต่อถึงตัวเกมซะเองแทบไม่ต้องลงทุนทำแคมเปญโฆษณาแต่อย่างใด
Civilization อีกคู่แข่งที่หันมาจับ Social Game ปะทะ EA และ Zynga
เจ้าของเกมชื่อดังในอดีตอย่าง Civilization อย่าง บริษัท Firaxis Games บริษัทลูกของ Sid Meier ได้ตัดสินใจดัดแปลงตัวเกมของตนมาลงแข่งขันบนตลาดเกมออนไลน์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Social Gaming เหมือนที่ The Sims ได้ทดลองทำแล้วได้รับผลสำเร็จตามคาด ในขณะที่ยอดขายเครื่องเกมคอนโซล และเกมต่างๆ กำลังตกต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี เช่นกัน เพราะเหตุจูงใจที่ว่าเกมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์มีแนวโน้มในการเติบโตขึ้นรวดเร็วมากจนน่าตกใจ
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเกมตระกูล Sid Meier ยังคงความนิยมในหมู่ผู้เล่นที่ชอบวิธีการดำเนินเรื่อง และรูปแบบการเล่นที่แตกต่าง แต่ให้ความเพลิดเพลินชนิดไม่มีเบื่อ และเกมที่ขึ้นชื่อนั้นปัจจุบันก็มีการปรับปรุง และพัฒนาต่อเนื่องตลอดเวลาอย่างเกม Civilization เกมที่ขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างอาณาจักรของตนเองผ่านโลกเสมือนจริงที่รูปแบบ และระบบการเล่นนั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมัน จนมีแฟนคลับหลายสถาบันต่างยกย่องให้ Civilization ของ Sid Meier นั้นเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลในการออกแบบระบบเกม” ในปี 1996 ของเว็บไซต์ GameSpot ไปโดยปริยาย ในตอนนี้ก็ประสบปัญหาเดียวกับ EA กับภาวะยอดขายบนแพลตฟอร์มพีซีที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้ Sid Meier และ Firaxis Games ได้หันมาทดลองตลาดผ่านเกมบนเครือข่ายสังคม โดนนำเกม Civilization ที่ได้รับความนิยมมาลดรายละเอียดลงส่วนหนึ่ง และใช้ชื่อว่า CivWorld เป็นชื่อหลักของเกมใน Facebook ซึ่ง ผู้เล่นเกม CivWorld ต้องร่วมมือกับเพื่อนในเครือข่าย Facebook เพื่อสร้างพัฒนาสร้างสรร เมืองของตน และปกป้องภัยจากการคุกคามการทางทหารจากข้าศึก อีกทั้งต้องระแวดระวังภัยทั้งหมดให้แก่เพื่อนบ้านนั่นก็คือเพื่อนบน Facebook ของคุณนั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชันพีซี ที่ไม่สามารถบริหารเมือง หรือประเทศร่วมกับใครได้ ที่สำคัญตัวเกม Civilization เดิมนั้นผู้เล่นมักใช้เวลาในการเล่นหลายชั่วโมงติดต่อกันจนกว่าจะผ่าน Check Point ที่ตนเองกำหนด แต่สำหรับ CivWorld นั่นทาง Sid Meier จะเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นของผู้เล่นให้จดจ่อกับเกมน้อยลง โดยจะเน้นให้ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเกมมากนัก อาจจะเพียง 10-15 นาทีในการเข้ามาตรวจตรา และทักทายเหล่าเพื่อนฝูงใน Facebook ที่ร่วมกันพัฒนาเมืองในเกม
ที่น่าสนใจที่สุดคือ CivWorld จะไม่ยืมแรงจาก Zynga เจ้าพ่อตลาดเกมบน Facebook ที่กินส่วนแบ่งไปเกินครึ่ง และตั้งใจจะเปิดตัวในการเป็นคู่แข่ง Zynga อย่างเปิดเผย อีกทั้งยังยืมกลยุทธ์ที่ทาง Zynga ใช้อยู่เป็นกลยุทธ์หลัก นั่นแปลว่านอกจากจะต้องทำสงครามกับศัตรูในเกม แล้ว Sid Meier: CivWorld ยังต้องเตรียมพร้อมที่จะทำสงครามธุรกิจบนสนามรบแห่งใหม่นั่นคือ เกมบน Facebook นั่นเอง
สงครามธุรกิจบน Social Game คิดจะเป็นใหญ่ใจต้องเหี้ยม
เกมแต่ละเกมของบริษัท Zynga ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่จะมีรูปแบบประเภท Casual Game นั่นคือการจำลองให้เราเล่นเพียงระยะเวลาสั้นๆ และสร้างรายได้เข้าสู่บริษัทโดยการขายไอเท็มเสมือน หรือ Virtual Goods ภายในเกม ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้เงินจริงในการซื้อไอเท็มเหล่า ล่าสุดบริษัท Zynga ได้ออกมาเปิดเผยในช่วงก่อนเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป หลังจากนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัท Zynga ณ ตอนนี้มีรายได้ยกจากปีที่แล้วถึง 91 ล้านเหรียญสหรัฐจากรายรับทั้งหมด 597 ล้านเหรียญ หรือมากกว่ารายได้ในปี 2010 ถึง 5 เท่า ทำให้ Zynga เองไม่ค่อยกังวลในเรื่องของคู่แข่งที่กำลังก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจการของ Social Game แม้ว่าจะมีหลายบริษัทจะหยิบยืมแนวคิดโมเดลธุรกิจของ Zynga ไปบ้างก็ตาม แม้กระทั่งบางรายต้องการมาเป็นคู่ค้าก็ยังมีโอกาสโดน Zynga ปฏิเสธได้อย่างง่ายดาย
Adventure World เกมบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ใหม่ของ Facebook ที่ทาง Zynga พัฒนาขึ้นมานั้น มีรูปแบบที่แตกต่างจากเกมก่อนหน้านี้เกือบทุกเกม แรงบันดาลใจของตัวเกมนี้มาจากการผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลกเหมือนภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones ผู้เล่นต้องคอยสะสมสมบัติหลายๆ ชิ้นแล้วนำมาประกอบกันเพื่อให้ได้ทองคำในเกม และเก็บสะสมค่าประสบการณ์แต่ละด่าน เพื่อนำไปใช้ผจญภัยในครั้งต่อไป สิ่งที่ Adventure World เกมใหม่ของ Zynga แตกต่างไปจากเกมทั้งหมดที่เคยทำมาคือ ขนาดของเกมที่ใหญ่ และระบบที่ซับซ้อนเกินกว่าจะอยู่บน Facebook เนื่องต้องการให้ผู้เล่นใช้สมองขบคิดไปกับการวางกลยุทธ์การเล่นเพียงคนเดียวเป็นหลัก แต่ยังสามารถเชิญชวนเพื่อนๆ มาร่วมผจญภัยด้วยกันได้ตามหลักการเดิม
รูปแบบการเล่นที่พูดถึงนี้ก็ไม่ใช่รูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่อะไร เพราะเกมแนว MMORPG ที่ตลาดของค่ายเกมในเอเชีย และประเทศไทยทั้งหลายเป็นรูปแบบการเล่นแบบแบบนี้เกือบทั้งหมด เพราะแนวเกมประเภทนี้มักจะทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เป็นเวลานาน เป็นกุญแจสำคัญที่ทางบริษัทจะสามารถทำผลกำไร กับสินค้าเสมือนที่ต่างประเทศยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนในเอเชีย หากถามว่าถ้าทำระบบเกมที่ซับซ้อนมากมายขนาดนั้นทำไม Zynga จึงไม่พัฒนาเกมแบบเต็มรูปแบบลงในเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีไป เพราะกราฟิกของเกมก็ไม่ได้สูงอะไรมากเลย ผู้เขียนมีความเห็นว่า แม้กราฟิกของตัวเกมจะไม่สูงนัก แต่หากต้องมีการพัฒนาลงในเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีแล้ว การปรับรุ่นของเกมเวลาที่เพิ่มส่วนเสริมหรือเวอร์ชันของเกมที่สูงขึ้น สินค้าใหม่ ด่านใหม่ๆ มันทำเป็นไปได้ยาก อีกทั้งการจะอัพเกรดรุ่นของเกมที่ติดตั้งลงเครื่องพีซีต้องให้ผู้ใช้เป็นคนทำเองทั้งหมด ระบบมีหน้าที่ได้แค่เตือนเท่านั้น ต่างกับ การนำเกมไปอยู่บน Social Game หรือบน Facebook ที่การปรับรุ่นไม่เห็นจำเป็นต้องบอกให้ผู้เล่นทราบล่วงหน้า สามารถปรับรุ่นได้ทันทีจากฝรั่งผู้ให้บริการเลย
อนาคตของเกมบนพีซีจะเป็นยังไงต่อไป หากเกมบนเครือข่ายสังคมกำลังมาแรง
หากว่ายอดขายของเกมบนเครื่องพีซี ยังคงตกต่ำเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา และยังคงตกต่ำลงเรื่อยๆ ในอนาคต มีความเป็นไปได้ว่า พีซีเกมอาจจะเป็นสิ่งที่หายาก หรือตายไปแล้วจริงๆ ได้เพราะค่ายผู้พัฒนาอาจจะต้องหันไปพัฒนาลงคอนโซลโดยเฉพาะ และเริ่มมาปรับรูปแบบลงธุรกิจให้สามารถเล่นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบ Social Game แทนเพราะ ตลาดยังในช่วงหลังปี 2011-2015 นั้น เครือข่ายสังคมออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าตกต่ำลง มีทางเดียวที่เกม และเกมออนไลน์บนพีซี จะเติบโตได้นั้น อาจจะต้องใช้กลยุทธ์ในการสร้างลูกค้าที่สนใจในเกมจริงๆ ผ่าน Social Game แทนการทำเดโมเกมออกมาให้เล่น นั่นคือลองเล่นผ่าน Facebook ก่อนในระบบที่ไม่ซับซ้อนหากต้องการความท้าทาย และความสนุกที่สูงขึ้นก็ควรแนะนำผู้เล่นบน Facebook ให้เข้าไปซื้อตัวเกมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวจริงในราคาที่ถูกลง จะเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ซึ่งน่าจะดีซะกว่า มาสร้างกระแสว่า ตลาดเกม และเกมออนไลน์บนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ยังคงได้รับความนิยมล้นหลามโดยการปิดหูปิดตาให้แก่ผู้บริโภคด้วยข้อมูลด้านเดียวจากทวีปเอเชีย เพราะเมื่อมาถึงวันหนึ่ง ที่เราต้องเข้ามาแงขันในธุรกิจ และทำการตลาดบนความสนุกบน เครือข่ายสังคมแห่งนี้อาจจะช้าเกินไปก็ได้ เพราะเรามัวแต่หลอกตัวเองอยู่