Ananda Development ได้จัดงาน The C Generation Party รวมเหล่า Blogger และเว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง พร้อมสื่อมาร่วมงานมากมาย
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ที่่ผ่านมา โดยไอเดียที่น่าสนใจนี้คือการหยิบยกประเด็นของเหล่า Influencer บนโลกออนไลน์ อย่างเหล่า Blogger ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายหลักของทาง Ananda Development อยู่แล้ว นั่นคือคน Gen C ตามชื่องาน The C Generation Party นั่นเอง
โดยคน Gen C นี้ก็คือคนที่อยู่ในวัยที่กล้าคิด กล้าแสดงออก ให้เกียรติการตัดสินใจของตัวเอง มีการจัด Balance ของชีวิต และการเงิน โดยเฉพาะ ไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่จริงๆ อย่างชีวิตแบบ Mobile Life หรือ Social Network ที่ปัจจุบันจะว่าไปแล้ว คน Gen C ทั้งหลายก็ล้วนมีการติดต่อสื่อสาร และอัพเด็ตข่าวสารทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่สื่อโฆษณาผ่าน เครื่องมือสื่อสารยอดนิยมอย่างสมาร์ทโฟน ที่เปนจุดศูนย์กลางขอการเชื่อมโยงทุกอย่างมาไว้กับตัว ตามคำนิยามว่า “Connected” ที่คน Gen C นั้นสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ไวกว่าคน Gen อื่นๆ
ส่วนความหมายของตัวอักษร C ที่ปรากฏนั้นก็คือ
- Cash Smart คน Gen C จะมีการวางแผนการใช้จ่ายที่ฉลาด มีการศึกษาหาข้อมูลมาอย่างดีอาจจะผ่าน Social Network ก็เยอะแยะ หรือจะบน YouTube ก็ใช่
- Convenience คน Gen C มีการเลือกหาสิ่งที่ต้องการที่ใกล้ตัว และตอบโจทย์ชีวิตของตัวเอง อยู่ในขนบที่เรียบง่าย เน้นความสะดวกสบายที่คล่องตัวที่สุด อย่างเช่นการเลือกซื้อรถยนต์ หรือซื้อคอนโดมิเนียมที่ใกล้รถไฟฟ้าดีกว่ากันเป็นต้น
- Creative คน Gen C มักจะใส่ใจกับรายละเอียด และดีไซน์ที่มีสไตล์ ที่ตอบโจทย์ความเป็นตัวเอง โดยไม่ต้องตามใครเสมอ
- Casual แน่นอนว่า คน Gen C อีกนั่นแหละที่มักจะมีความฉลาดในการใช้ชีวิต แบ่งเวลาเป็นให้กับสิ่งที่ชอบหลังเวลางาน อย่างผู้เขียนก็ Work Hard Party Harder
- Control การจัดการเวลาชีวิตตัวเองในการทำงาน คน Gen C เข้าใจการทำงานที่เร่งรีบในเวลาที่ไม่ได้เอื้ออำนวยอย่างรถติด การจราจรที่ไม่ค่อยเป็นใจ แต่การเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้าอย่างที่คอนโดมิเนียมของโครงการนี้ตั้งอยู่ก็สามารถช่วยลดเวลาที่จะต้องเสียไปบนท้องถนน หรือหากจำเป็นต้องอยู่บนรถคน Gen C ก็ยังเลือกใช้สมาร์ทโฟน ในการทำงานได้อย่างไม่สะดุด แบ่ง และรับมือการทำงานได้แน่นอน
- Connected อาจจะเป็น Generation Connected ก็ว่าได้ เพราะคนยุคนี้นอกจาก สมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต แล้ว Social Network ก็คือสิ่งที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อ ช่วยเหลือกันได้อย่างไม่ขาดช่วง เหมือนเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
โดยบรรยากาศใน ปาร์ตี้ The C Generation Party นั้นผู้บริหาร คุณโก้ ชานนท์ เรืองกฤตยา CEO หนุ่มของ Ananda Development ได้หยิบไอเดียของการ Connected และไลฟ์สไตล์ของคน Gen C มาผสมผสานกันเป็นปาร์ตี้ที่นอกจากบอกเล่าถึง Concept ของโครงการ ผ่านชีวิตของผู้คนในกรุงเทพฯ ที่ทุกๆ วันจะต้องพบเจอกับปัญหามากมายในการเดินทาง โดยเฉพาะการจราจร ผ่านคำถามที่ชวนคิดว่า
“ปีๆนึงเราใช้เวลาอยู่บนรถยนต์นานขนาดไหน?”
ซึ่งก็ได้คำตอบที่น่าทึ่ง และน่าคิดจากผลสำรวจว่า โดยเฉลี่ยพวกเราใช้ชีวิตอยู่บนรถยนต์ 44 วันต่อปี มันคือเวลาที่เสียไปอย่างไร้ค่าในการใช้ชีวิตของคนเมืองจริงๆ ทั้งการเดินทางไปทำงาน และกลับบ้าน
ซึ่งก็เข้ากับ Location เกือบทุกโครงการ และโครงการที่เป็นตัวหลักของงานนี้ อย่าง Ideo Mobi พระราม 9 ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเกือบทุกโครงการเป็นจุดที่เชื่อมโยงปัญหา และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างดี ในการประหยัดเวลา และมีเวลาในการใช้ชีวิตของตัวเอง ตามรูปแบบของคน Gen C เป็นการ “คืนเวลาให้ชีวิต” นั่นเอง
ผ่านการบอกเล่า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของ เหล่า Blogger ตัวแทนของการ Connected หรือ Generation Connected ของแท้ได้แลกเปลี่ยน และร่วมกิจกรรมในค่ำคืนปาร์ตี้แสนสนุกสุดเหวี่ยงร่วมกัน
วิเคราะห์การตลาดแนว Influencer Marketing กับการทำ BrandAwareness ผ่าน HashTag # ยอดนิยมผ่านเหล่า Blogger ที่มีไลฟ์สไตล์ติด Social อยู่แล้วเป็นการตลาดที่ยังคงได้รับความนิยมผ่าน Key Opinion Leader อย่างเหล่า Blogger ในการเป็นคนกลางเชื่อมโยง แบรนด์ สู่ผู้บริโภคในรูปแบบของประสบการณ์ที่ จับต้องได้
ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่มากกับ การสร้าง Brand Engagement ระหว่าง Influencer กับผู้บริโภค อาจจะเป็นทางออกที่น่าจะแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ดีที่สุดหากโมเดลการทำธุรกิจ หรือแคมเปญในครั้งนี้จำเป็นต้องใช้แนวคิด Influencer Marketing
นักการตลาด อย่าง ปาร์ตี้ Gen C สอบผ่าน 100% ที่รู้ดีว่าการเลือกใครสักคนใน Community แต่ละเรื่องมาเป็น Influencer จำเป็นต้องเรียนรู้พฤติกรรมการตอบสนองของเขาต่อผู้ที่ติดตาม และต้องเฝ้าวิเคราะห์ ประเมินการตอบรับผ่านผู้ติดตามของพวกเขา ว่าเหล่าผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์เหล่านี้มีความผูกพันธ์กับผู้บริโภคคนอื่นๆ หรือไม่ เพื่อที่จะได้สร้างแคมเปญผ่าน ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านี้ได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และโดนใจผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างเหล่า Blogger คนดัง และ สื่อด้านอสังหาริมทรัพย์มารวมตัวกันกระจายแบรนด์ และประสบการณ์ผ่าน ภาพถ่าย เล่าเรื่อง และ คอนเซ็ปที่หลายคนเข้าใจได้ง่ายประมาณว่า “Click” กันเลยทีเดียว