สำหรับผู้ที่ต้องการสอบ Google Analytics Certified จาก Google Partners โดยบทความนี้จะรวบรวมคำถาม และการวิเคราะห์คำตอบทั้งหมด 70 ข้อ
Link สำหรับสมัครสอบ: Google Partners
ในวันแรกนี้จะรวบรวมคำถามใน 10 อันดับแรกจาก 70 ข้อมาวิเคราะห์กันก่อน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จากคะแนน 63/70 ของผมดังนั้นหากมีข้อไหนผิด หรือไม่ถูกต้องสามารถแจ้งได้นะครับ
ชุดคำถามที่ 1:
True or False: When a new view is created, it will show the historical data from the first view you created for the property.
บน Google Analyticsเมื่อมีการติด UA Script ของ Google Analytics ครั้งแรกบน View ใหม่ และเมื่อมีสถิติปรากฏขึ้นในระบบของ Google Analytics หน้าจอรายงานจะนำเสนอ ประวัติย้อนหลังตั้งแต่แรกที่เราทำเว็บไซต์ขึ้นมา ข้อนี้ถูกต้องหรือไม่?
คำตอบ: ไม่ครับ เพราะว่ารายงานจะนำเสนอข้อมูล (Data) เริ่มแรกในวันที่เราเริ่มติด UA Script หรือเริ่มติด Analytics เท่านั้น
What is the URL parameter that auto-tagging appends to an AdWords destination URL?
เรื่องของ Auto-Tagging จาก Destination URL ของ Adwords ที่จะมาปรากฏร่วมกับ Google Analytics คำถามข้างต้นเป็นการถามว่า URL parameter ที่เป็นลักษณะ ?id=1 หรือ ?id=1&cate=2 ที่ต่อท้าย URL ที่ปรากฏใน Destination URL ใน GoogleAdwords ในลักษณะ auto-tagging นั้นจะต้องตั้งค่ารูปแบบยังไง
คำตอบ: รูปแบบดังกล่าวคือ gclid= ครับ เป็นการยืนยันว่าการติด auto-tagging (แท็กอัตโนมัติ) ว่าทำงานอยู่บนไซต์ของคุณเพื่อเป็นการตรวจสอบว่า aut-taggingของ AdWords ทำงานหรือไม่เมื่อมีการกดจาก Link ไปยัง URL ปลายทางเพื่อตรวจสอบ Traffic บน Google Analytics ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่นี่: https://support.google.com/analytics/answer/2938246?hl=th
Which of the following is a hit type tracked by Google Analytics?
ก่อนจะตอบคำถามคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Tracking Hit คืออะไร?, Tracking นั้นเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยตัดสินใจว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นมีหน้าใดบ้างที่ปรากฏในเว็บไซต์ของคุณที่ต้องการ Tracking จับพฤติกรรมในหน้าเหล่านั้น โดยการคลิก (Hit) วิธีการคือ แทรก JavaScriptลงในหน้าเว็บไซต์นั้นๆ ตาม Element ต่างๆของเว็บไซต์ เช่น ปุ่มกดซื้อสินค้าเพื่อจับเป็น (Paid หรือ Ecommerce Tracking) หน้า Thank you หลังจากซื้อสินค้าเสร็จเพื่อทำ การคำนวณค่า Conversion Rate เป็น (Page Tracking Hit) หรือ Event Tracking Hit คือการจับว่าในเว็บไซต์ของคุณนั้นมีการกดที่เมนู หรือ Link สำคัญต่างๆ บ่อยแค่ไหน รูปแบบการติดคือ
- การติด Page Tracking (https://developers.google.com/analytics/devguides/collection/analyticsjs/pages)
- การติด Event Tracking (https://developers.google.com/analytics/devguides/collection/analyticsjs/events)
- การติด Ecommerce Tracking หรือการทำ Transaction Data Click (https://developers.google.com/analytics/devguides/collection/analyticsjs/ecommerce)
ดังนั้นหากการสอบ Google Analytics Certified พบคำตอบทั้งสามคือ Page, Event และ Ecommerce Tracking ก็จงเลือก ถูกทั้ง 3 ข้อครับ
Each dimension and metric has a scope that aligns with a level of the analytics data hierarchy — user, session, or hit-level. In most cases, it only makes sense to combine dimensions and metrics in your reports that belong to the same scope. Which of the following is a valid dimension / metric combination?
การวิเคราะห์รายงานของ Google Analytics ข้อมูลที่เรานำมาหาตัวชี้วัดนั้นมีขอบเขตที่สอดคล้องกันระหว่าง level ของข้อมูลเช่น user, session(การใช้งาน) หรือ hit level (การคลิก) แนวทางหนึ่งที่เราจะสร้างรายงานที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Metric (รูปแบบการวัดผล) และ Dimension (มิติของข้อมูล) ตามกฏของการวิเคราะห์ Metric/Dimensionข้อมูลที่สมเหตุผล เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามิติ (Dimension) ของข้อมูลของ Google Analytics นั้นประกอบไปด้วย City, Browser, Referral Source, Page, Landing Page และ Visitor Type ซึ่งจะให้สถิติผลลัพธ์ในกลุ่มของ Page views, Unique Visitors, Visits, Bounce Rate, Average Time on Page เป็นต้น ตรงกันข้าม Metric นั้นกลับเป็นกระบวนการหรือพฤติกรรม ประกอบไปด้วย New Visits, Page Value, Returning Visits, Events, Bounce Rate, Exit, Sessions เป็นต้น
ดังนั้นถ้าใน กรณีศึกษาข้างต้น คำถามคือการผสมผสานระหว่าง Metric/Dimension เราจะเห็นว่า
- Session (Metric) + Page (Dimension) ไม่ถูกต้องเพราะ รูปแบบดังกล่าวไม่ใช่รูปแบบที่ถูกต้องตามกฏ
- Metric/Dimension Bounce Rate (Metic) / Event Action (Dimension) ไม่ถูกต้องเพราะ Event Action ไม่ใช่
- Dimension แต่เป็น Metric Session (Metric) / City (Dimension) เป็นรูปแบบที่ถูกต้องการกฏของการวิเคราะห์ข้อมูล
The Google Analytics Data Model consists of users, sessions, and interactions. In this heirarchy, interactions include:
การวัดผลข้อมูลบน Google Analytics เราต้องวัดผลด้วย Metrics ใดจากชุดข้อมูลต่อไปนี้ตามลำดับ user,sessions,interaction
คำตอบคือ PageViews, Events, Transaction ตามลำดับเพราะ user วัดผลด้วย PageViews เพื่อทราบพฤติกรรมของหน้าเว็บไซต์ของเรา sessions การใช้งานคือการวัด Events ที่เกิดจาก Tracking บนเมนู หรือปุ่มต่างๆ เพื่อดูว่ากดตำแหน่งไหวดีที่สุดบนเว็บไซต์ และ Transaction เป็นการวัดผล Interaction ในแง่ของการโต้ตอบระหว่างหน้าเว็บไซต์ของเรากับผู้ใช้งานที่เข้ามาทำอะไรบางอย่าง เช่น Ebook download, Email Subscription หรือ Check Out ซื้อสินค้าเป็นต้น
You Launched Several New Marketing Campaigns And Want To Be Notified If Any Of The Campaigns Lead To Over A 10% Increase In Goal Conversions On A Given Day. Which Tool In Google Analytics Would You Use To Set Up This Alert?
กรณีศึกษาถ้าคุณมีการทำแคมเปญการตลาด และมีการเล่น Online PR ไปสักพัก คุณต้องการให้ระบบ Google Analytics แจ้งเตือนมายังอีเมลของคุณทันทีเมื่อมี Leads (การคลิกจากโฆษณา หรือ Landing Page) สูงเกิน10% ตามที่ตั้งค่าไว้ใน Goal Conversions ในวันนั้นคุณต้องใช้เครื่องมือใดในการสร้าง alert อัตโนมัติมายังอีเมล
ใช้เมนู Intelligence Events → Daily Events
Which of the following metrics would most strongly suggest a poorly performing website?
พิจารณา Metric ต่อไปนี้สำหรับวิเคราะห์
- Bounce Rate > 90%
- New Visits > 90%
- Avg. Session Duration > 5 Minutes
- Bounce Rate < 90%
ส่วนของ Metric ไหนที่เป็นการบอกว่าเว็บไซต์กำลังย่ำแย่
คำตอบคือ: Bounce Rate > 90%, เป็นการบอกว่า เนื้อหา Content ของเราไม่ดีเท่าไรนักคนอ่านเข้ามาแล้วปิดหน้าหนีทันทีค่า Bounce Rate จึงสูง
What are UTM parameters?
UTM Parameter คืออะไร? UTM เป็น Parameter ที่เราสามารถเพิ่มเข้าไปยัง URLs ที่เราต้องการ Track Organic Trafficเพื่อบอกแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมให้ Google Analytics ได้ทราบ เมื่อเกิดการคลิกบนลิงค์ หรือ สำหรับ Track ใน CPC ของ Adwords จากการกดโฆษณาก็ได้ว่ามาจากโฆษณาที่ฝากไว้จากไหน ขนาดเท่าไร รูปแบบอะไร เป็นต้น
Scenario: The Google Merchandise Store recently launched a mobile responsive website and started a few new ad campaigns. When looking at their overall traffic in Google Analytics, they noticed that they have a bounce rate of 85%. Which of the following dimensions would be useful when analyzing their traffic to determine the cause of this high bounce rate?
จงประเมินสถานการณ์ต่อไปนี้: ร้านค้า The Google Merchandise มีโปรโมชันออนไลน์เปิดตัว โทรศัพท์มือถือ ใหม่ผ่านแคมเปญ Ads ไปพักหนึ่ง เมื่อไปดู Traffic ที่หน้ารายงานกลับพบว่า Bounce Rate ของหน้าสินค้ามีค่าสูงว่า 85% หากว่าเราต้องการหาสาเหตุของ Bounce Rate ที่สูงตรงนี้เราต้องวิเคราะห์ที่ Traffic ส่วนไหนบ้าง
สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ประกอบไปด้วย Device Category, Landing Page และ Campaign ถ้าประเมินตามสถานการณ์ดังกล่าว Device Category เป็นการบอกว่าผู้ชมบางส่วนที่เปิดขึ้นอาจจะเป็นกลุ่มของคนที่ไม่ได้สนใจสินค้า เช่น สินค้าที่จะขายคือ มือถือระบบปฏิบัติการ Android แต่เมื่อไปดูยังรายงานอาจจะพบกับ iOS ที่มาเป็นอันดับสุงสุด Platform, Brand Royalty ของลูกค้ามีผลต่อ Bounce Rate แน่นอน Landing Page เป็นการบอกว่าหน้าปลายทางนั้นถูกต้องหรือไม่เพื่อไว้ใช้ตรวจสอบ Script ว่า Bounce Rate สูงเพราะอะไร ควรใช้คู่กับ UTM Campaign เป็นการตรวจสอบว่า Paid Campaign และ Organic Campaign อันไหนมีประสิทธิภาพกว่ากัน และ paid campaign เป็นตัวส่ง traffic ที่ดีจริงหรือไม่?
Which reporting or data collection feature(s) do you get access to by activating Advertising Features in Google Analytics?
หน้าจอรายงานของ Google Analytics นั้น Features หนึ่งที่เราสามารถจัดการได้กับโฆษณา เช่น Adwords Advertising นั้นจะประกอบไปด้วยรายงานของอะไรบ้าง คำตอบแสนจ่ายครับลองไปที่เมนู Acquisition->Adwords->Campaigns แล้วตั้งค่าโฆษณาใหม่ดูผ่านการ Link your Adwords and Analytics accounts
จะพบว่ารายงานที่เราจะจัดการได้คือ Interest Categories, Demographic และ Re-marketing Reports ครับ
A visitor comes to your site but stops looking at pages and generating events. Which of the following will occur by default?
ถ้าผู้เยี่ยมชมเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ ไปยังหน้าที่มีการสร้าง Events Tracking เหตุการณ์ใดต่อไปนี้เกิดขึ้นได้
- Google Analytics does not keep track of sessions by default
- The visitor’s session expires after 5 minutes of inactivity
- The visitor’s session expires once the visitor has exited your site
- The visitor’s session expires after 30 minutes of inactivity
จะเห็นว่า Google analytics จะไม่เก็บ Session ของการ Track Event นั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน ส่วน Session จะหมดอายุหลังจากไม่ได้มีกิจกรรมใดๆ บนเว็บ 5 นาทีเป็นไปไม่ได้ และไม่มีทางที่ Session จะหายไปทันทีเมื่อออกจากเว็บไซต์แน่นอน (ไม่งั้นก็จะไม่รู้ Returning Visitor) ดังนั้นข้อที่ถูกต้องคือหลัง 30 นาทีเมื่อไม่มีการ Active กิจกรรมใดๆ ในเว็บไซต์ Session จะ Expire
What is an assisted conversion?
Assisted Conversion คืออะไร?
เหมาะกับการเล่นแคมเปญบน Ads แล้ว Leads ไปยังเว็บไซต์ของเราบน Landing Page โดยมีการวิเคราะห์ที่กลุ่ม Target หรือ กลุ่มเป้าหมายของเราได้ทำการคลิกโฆษณาเข้ามายังเว็บไซต์ แล้วยังไม่เกิดการตัดสินใจจะซื้อสินค้าทันที อาจจะต้องตัดสินใจสักไม่กี่วันหรือมากกว่านั้นเป็นสัปดาห์ เราอาจจะต้องมีการวัดผลหลังจบแคมเปญแล้ว ในแง่การตลาดจะนับ Conversion ที่ยังไม่เสร็จสิ้นตรงนั้นว่า assisted conversion (อยู่ที่หน้า Event ที่มีขั้นตอนการจ่ายเงินแล้ว) นับเป็น KPI หนึ่งได้เพราะเมื่อมีการกลับมายังหน้าโดยไม่มีคลิกที่ Ads เดิมแต่เป็นการพิมพ์ URL เดิมตรงๆอีกครั้งจากผู้ใช้งานคนเดียวกันจะไปยังหน้า Conversion พร้อมให้ดำเนินการต่อทันที
สรุปจากยาวๆ คือ Traffic Sources ที่ค้างจาก Goal Completion (กดจาก Ads) แล้วมาจบที่ Traffic Sources อีกตัว (พิมพ์ URL ตรงๆ) ให้นับ KPI ตรงนี้ว่า assisted conversion เพราะเป็น conversion ประเภทหนึ่งเช่นกัน
Why Would It Be Useful To Assign A Value To Your Goal In Google Analytics?
ทำไมการกำหนดค่า Value ของ Goals บน Google Analytics ถึงต้องเป็นสิ่งที่จำเป็น
คำตอบ: การกำหนด Goal Value จะช่วยให้เราสามารถ Track Revenue รายได้ที่เกิดขึ้นจริงจาก Conversion ของเราครับ
Which report would you use to determine the % of your site traffic that has already been to your site before?
รายงานรูปแบบไหนที่เราต้องใช้การเปรียบเทียบ % ของTraffic ที่เกิดขึ้นใหม่กับTraffic ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สิ่งที่ใช้วัดผล Traffic และเปรียบเทียบ % นั้น รายงานที่เหมาะสมที่สุดคือการวิเคราะห์พฤติกรรม (Behavior): New vs Returning Visitor ผู้เยี่ยมชมใหม่ กับ ที่ผู้เยี่ยมชมขาประจำ เราจะเห็น Dimension ที่ชัดเจนที่สุด
What reports would you use to determine if you should consider expanding your advertising to new markets?
รายงานรูปแบบไหน ที่จะใช้ในการตรวจสอบว่าเราควรจะขยายช่องทางการทำการตลาด ในข้อนี้จะมีตัวเลือกคือ
- Location and Language reports
- Frequency and recency reports
- Intelligence events
- Source/Medium report
เราจะเห็นว่า Location และ Language เป็นช่องทางที่เรียกว่า ตลาดใหม่ Market (ภูมิประเทศ และภาษา) ตามหลักการตลาดเป็นการ Expanding จริงๆ มากกว่า เรื่องของ Frequency, intelligence ที่เป็นการบอกว่า สินค้าไหน หรือโฆษณาตัวไหนได้รับความนิยม เพราะเป็นการวัด Performance เสียส่วนใหญ่ ส่วน Source/Medium นั้น เป็นการบอกแหล่งที่มาซึ่งหมายถึง การเพิ่ม Channel ในการกระจายแต่ไม่ได้หมายถึงตลาดใหม่
ดังนั้นคำตอบที่ถูกที่สุดคือ Location and Language reports
ในตอนที่ 1 นี้ขอจบที่ 15 ข้อนี้ก่อนนะครับ ไว้จะมาติวตอนที่ 2 ก่อนระหว่างนี้ถ้าสนใจไปสอบดูก็สามารถไปสอบก่อนได้ที่
http://www.google.com/partners
พื้นที่โฆษณา
ถ้าต้องการให้จัดเทรนนิ่งเพื่อ Certified สามารถแจ้งได้ที่ Message ของศูนย์ iTex มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (https://www.facebook.com/dpu.itex/) เพื่อลง WhichList ให้เปิดเทรนนิ่งได้
