ปัจจุบันเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งานในเครือข่ายตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา เช่น twitter ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้ประโยคที่ชัดเจนและสั้นเพียง 140 ตัวอักษรในการกระจายสิ่งที่เราสนใจ และ facebook ที่ทุกวันนี้เราแทบจะใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ในนั้น ซึ่ง facebook อีกนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุให้เราหลายคนรวมไปถึงผู้เขียนเริ่มที่จะละเลยการเข้าเช็คอีเมล์ และออนไลน์โปรแกรมแชท อย่าง Skype, Windows Live Messenger น้อยลง อย่างไม่ทันจะรู้สึกตัว
ในตอนนี้ถือว่า facebook เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะสถิติของ Alexa นั้นได้ระบุว่าตอนนี้ facebook ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 2 ของโลกตามหลัง Google อยู่แค่อันดับเดียว แม้จะมี Traffic ที่น้อยกว่าครึ่ง
“แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีแนวโน้มที่ facebook จะสามารถวิ่งตาม Google ได้ทันอย่างสบาย”
ส่วน Google ที่เป็น Search Engine ยักษ์ใหญ่ ถูกจัดอันดับความนิยมของเว็บไซต์ผ่าน Page Rank ในตอนนี้กำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะการค้นหา ข้อมูลที่ค้นหาอย่างไรก็พบ แต่ไม่ได้คำนึงว่าผลลัพธ์นั้นตรงความต้องการของผู้ใช้งานหรือไม่ แต่ facebook นั้นกลับเป็นอะไรที่ตรงตามสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ และแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่เรียกว่า Real-Time โดยไม่ต้องรีเฟช (Refresh) หน้า อย่างที่ Google เป็นเลย
สำหรับ Google เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสที่บ้าพลังของ facebook ที่พร้อมจะบินโฉบตำแหน่งความเป็นที่ หนึ่งจากตัวเอง จึงมีการปรับกลยุทธ์ขององค์กรชนิดที่ว่ายกเครื่องใหม่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งแผนการดำเนินงานองค์กรใหม่ของ Larry Page, CEO ของ Google กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เริ่มต้นโดยการแต่งตั้งผู้บริการระดับสูง 6 คนควบคุมการแบ่งแยก Product Area ทั้ง 6 ฝ่าย ให้มีความชัดเจนเป็นสัดส่วนมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินงานของ Google ให้สามารถดำเนินแผนงานได้อย่างรวดเร็วกว่าเก่า
กลยุทธ์อีกด้านของ Google คือ การผลิตนวัตกรรมใหม่ทางซึ่งตอนนี้ Google ได้เริ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการที่จะใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา หรือ แท็บเล็ต เป็นหลัก ซึ่งทาง Google จะดึงโปรเจ็คที่เคยถูกพับเก็บไว้นานขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่อย่าง Chrome OS มาใช้ และสุดท้ายคือ Google Caffeine เครื่องมือค้นหาที่ทาง Google ซุ่มพัฒนา และเปิดตัวให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกได้เห็นโดยทั่วกันไม่นานมานี้ โดย Google Caffeine นั้นถูกพัฒนาบนแนวคิด Next Generation Architecture of Google Search ซึ่งอาจจะเป็นไม้ตายที่ Google บอกว่าจะมาแทนที่แบบเดิมอย่าง Google Indexing ที่ใช้บนเครื่องมือค้นหาของ Google ในปัจจุบัน Google Caffeine นั้นดูจะเป็นกลยุทธ์ไม้ตายที่ปรับการทำงานของการค้นหาของ Google ให้เป็น Real-Time และลดการรีเฟชหน้าเพจลง ให้เหมือน Google Wave นั่นเอง
เมื่อก่อนจากที่เราโปรโมทเว็บไซต์มักจะถูกระบุให้รองรับการค้นหา และแสดงผลลัพธ์ให้อยู่ในหน้าแรกของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google หรือการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งจำเป็นที่จะต้องวิ่งตามมาตรฐานที่ทาง Google กำหนดไว้ จนมีหลายเป็นธุรกิจหยิบโอกาสตรงนี้มาทำเป็นบริการ Search Engine Support อย่าง รับทำ Adwords, PPC และบริการอื่นมากมาย แต่ตอนนี้ทุกสิ่งเริ่มเปลี่ยนไป ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ใช้งาน Google นั้นไม่ได้เลือก หรือรับผลลัพธ์จากการค้นหาที่ต้องการ แต่ทางเครื่องมือค้นหากลับเลือกข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุดมาแสดงให้แก่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ซึ่งบางครั้งก็ได้ข้อมูลที่ไม่ค่อยตรงตามความต้องการของผู้ใช้ แต่สำหรับ facebook นั้นกลับมี Feature หรือคุณลักษณะพิเศษที่สนับสนุนให้แก่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง โดยการคลิก Become a Fans เพียงปุ่มเดียว ซึ่งถูกจริตของผู้ใช้ที่ไม่ต้องขวนขวายค้นหาสิ่งที่ต้องการมากเกินไป เพราะสิ่งที่สนใจวิ่งมารอตรงหน้าเอง
ในตอนนี้ facebook เองก็คงไม่ได้คาดหวังจะเร่งรีบที่จะยึดตำแหน่งจาก Google แต่อย่างใด เพราะโครงสร้างด้านสถาปัตยกรรมระบบของ facebook นั้นยังไม่ได้พัฒนาเพื่อให้รองรับการทำการ Indexing ตามหลักของเครื่องมือค้นหาเพราะยังคงรูปลักษณ์การเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ ถ้าถึงวันนั้นการเข้าระบบจะเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องทำและ facebook ก็จะกลายเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ทุกเรื่องทุกด้านที่เราต้องการ เลือกได้โดยไม่ต้องถูกยัดเยียด
คงต้องรอดูต่อไปสำหรับ Google และ facebook ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ และใครจะมีกลยุทธ์ที่เหนือชั้นกว่ากันแต่ที่แน่นอนที่สุดของชัยชนะของแต่ละฝ่าย ก็คือผู้ให้คะแนนความนิยมนั่นก็คือ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตอย่างพวกเรานี่แหละครับ
