ผู้อ่านที่เป็นนักการตลาดออนไลน์หลายคนเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับว่าเจ้ากลยุทธ์บน Social Media ที่เรานิยมใช้กันอย่าง Facebook Marketing หรือการตลาดบน Facebook มันได้ผลจริงหรือเปล่า ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) หรือ ROI นั้นมันคุ้มหรือไม่ ซึ่งในหลายวงการนั้นก็จะมี ROI ที่แตกต่างกันแต่ในบทความนี้เราจะ เจาะจงเฉพาะวงการโฆษณาออนไลน์ และการตลาดออนไลน์ บน Facebook
ซึ่งเป็นเครื่องมือการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมในตอนนี้ ซึ่ง ROI นั้นสูง ภายใต้งบการตลาดที่ต่ำ นั่นแปลว่าคุณประสบความสำเร็จครับ Facebook Marketing นั้นเป็นเครื่องมือการตลาดที่แทบไม่ต้องลงทุนเลยครับเพราะการสร้าง Fan Page และโปรโมตนั้นไม่เสียค่าบริการ แต่ผลที่ได้รับจากการทำ Facebook Marketing นี่สิมันคุ้มค่ากับที่คุณมาเสียเวลาทำ Online Marketing เพื่อได้คนที่สนใจธุรกิจของคุณเพียงไม่กี่ร้อยคน แลกับการไปวงทุนบนโฆษณาบน นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่น่าจะเรียกคนได้มากกว่าจะดีหรือ เริ่มลังเลแล้วใช่ไหมครับว่ามันดีจริงหรืเปล่า เอาเป็นว่าบทความนี้ผมจะพาไปลองวิเคราะห์กรณีศึกษาในการทำ Facebook Marketing กันครับโดยกลุ่มที่ผมยกมาในกรณีศึกษานี้คือกลุ่มของ ธุรกิจขนาดย่อม หรือ Small Business (SMEs) นั่นเองครับ ซึ่งแต่ละธุรกิจก็จะมีประเภทแตกต่างกันไปทั้งแบบ B2C และ B2B
Cheese & Burger Society
แคมเปญบน Facebook ที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “Cheese & Burger Society” ได้รับการสนับสนุนจาก Wisconsin Milk Marketing Board เมืองแห่งเนย และ ชีส ที่เป็นสินค้า และอุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญในเมือง Wisconsin ซึ่งทาง Wisconsin Milk Marketing Board นั้นเป็นองค์กรอิสระที่ มีหน้าที่เหมือธนาคาร SMEs และสหกรณ์ส่งออกสินค้า OTOP เหมือนกับที่ประเทศไทยเราทำกันครับ แต่เค้าจะดูแลเรื่องผลิตภัณฑ์ด้าน เนยแข็ง หรือ ชีส เป็นหลักครับ
ซึ่งทางคณะกรรมการของ Wisconsin Milk Marketing Board นั้นลองเปลี่ยนวิธีการประชาสัมพันธ์ จากสื่อแบบเดิมอย่าง โทรทัศน์ และแผ่นภาพใบปิดโฆษณา ป้ายโฆษณา มาเป็นการสร้าง Fan Page บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Facebook
โดยอาศัยหลักการสังเกตพฤติกรรมการบริโภคอาหารประเภทที่น่าจะมีชีส เป็นส่วนประกอบ และกลุ่มผู้บริโภคนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายระดับบนจนเกินไป อาหารพื้นๆ ที่มีประปราย และหลายคนพูดถึงบ่อยมากเหมือน ข้าวมันไก่ บ้านเรานั่นก็คือ ชีสเบอร์เกอร์ และคนที่บริโภคชีสเบอร์เกอร์นั้น หรืออาหารประเภท Fast Food นั้นส่วนใหญ่เป็นคนที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และคนที่ใช้การปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานแบบนั้นย่อมต้องมีเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือระบายความเครียด นอกนั้นก็เป็นกลุ่มวัยรุ่น และอาชีพอื่นๆ ประปรายที่นิยมใช้ Facebook และบริโภคชีส เบอร์เกอร์อยู่แล้วให้คิดถึงชีสดีๆ ต้องชีสจาก Wisconsin สิ่งที่ชาวอเมริกาต่างรู้จักกันดีในคุณสมบัติ และรสชาติของมัน ไม่แปลกเลยเมื่อ Fan Page ที่ชื่อว่า “Cheese & Burger Society” ที่ทางคณะกรรมการ Wisconsin Milk Marketing Board สร้างขึ้นมานั้นจะมีคนกด Like พูดคุยเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับชีส และชีสที่อยู่ในเบอร์เกอร์
เมื่อทางผู้ดูแลรับฟังความเห็น และสังเกตุพฤติกรรมของผู้บริโภคจนจับจุดได้ว่า 80% ของคนใน Fan Page นั้นพูดคุยกันในเรื่องของชีส และ เบอร์เกอร์ แคมเปญง่ายๆ ที่หลายแบรนด์เคยทำกันโดยอาศัยความสนุกของผู้บริโภคก็เกิดขึ้นมากมาย เป็นการบอกต่อ อีกทั้งผู้ดูแลก็เฝ้าตอบคำถาม ให้ความรู้ และสร้างตัวตนให้เป็นกันเอง ล่าสุดFan Page ของ Cheese & Burger Society ก็ได้พัฒนาแอพพลิเคชันบน Facebook ขึ้นมาโดยวิธีเล่นนั้นก็แสนง่าย เพียงแค่อกแบบ ชีส เบอร์เกอร์ใน สไตล์ของคุณ แล้วส่งต่อให้เพื่อนในเครือข่าย Facebook ของคุณ วิธีการแบบเดิม เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่เพราะผลิตภัณฑ์ และบริการ นั้นสื่อความหมาย และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
ไม่แปลกที่ การส่งต่อเบอร์เกอร์ของคุณให้แก่เพื่อนๆ นั้นจะสร้างกระแสระบาดได้กว้าง จนปัจจุบันนั้นมีคนเป็นสมาชิก Fan Page ของ Cheese & Burger Society เกือบหนึ่งแสนรายแล้ว วัดผลออกมาวิเคราะห์ได้ง่ายเลยว่า เสียเวลาไป ลงทุนออกรายการทีวีตั้งนาน แค่วางแผนให้ดี สังเกตพฤติกรรมให้แม่น แค่นี้ แคมเปญบน Facebook ก็ต่อยอดฐานลูกค้าให้ แบรนด์เป็นที่รู้จักได้แล้วผ่าน Viral Marketing นิดๆ ไม่ต้องไปทำคลิปฉาวขว้างโทรศัพท์เลย
นอกจากแคมเปญ เล่นง่ายๆ แล้วสมาชิกผู้ชื่นชอบกิจกรรม และเนื้อหาที่ทางผู้ดูแลหน้า Fan Page ของ Cheese & Burger Society มานำเสนอต่างก็มีการบอกเล่าเรื่องราว และถ่ายภาพตนเองกับ เบอร์เกอร์ที่กำลังทานอยู่ เป็นเหมือนการสร้างสังคม และกลุ่มเพื่อนออนไลน์ที่เป็นกันเองอีกกลุ่มไปโดยปริยาย
Key Success ที่ Cheese & Burger Society ประสบความสำเร็จในการทำ Facebook Marketing
- ยกระดับการสนทนาของสมาชิกใน Fan Page ให้ออกนอกเรื่องของธุรกิจของตัวเอง ไปสู่บทสนทนาวงกว้างแต่ยังอยู่ในโดเมนของธุรกิจที่ทำ เช่น ทำสหกรณ์ชีส ไม่ควรพูดถึงแต่เรื่องภาพลักษณ์องค์กร แต่ควรจะพูดถึงความสนุก และการสร้างสีสันของอาหารโดยชีส
- ค้นหาวิธีนำเสนอแคมเปญ ที่เรียบง่าย แต่สร้างสรรค์เพื่อเกิดสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมกิจกรรม เช่น แอพพลิเคชันในการ แบ่งปันเบอร์เกอร์บนหน้า Wall ของเพื่อน
- กิจกรรมเกี่ยวกับภาพถ่าย นั้นยังคงใช้ได้อยู่อย่างตลอดเวลา