คนในวงการอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีในตอนนี้อาจจะคิดเหมือนผมตรงที่ว่าการจับกุม Megaupload ในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นเหมือนมีนัยแอบแฝงกับการขู่ หรือเชือดไก่ให้ลิง หรือผู้ให้บริการด้าน Cloud Storage อยู่ และยังเป็นการย้ำเรื่องของนักลงทุนทั้งหลายว่าข้อมูลใน Cloud นั้นมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่โดนตรวจสอบจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
แน่นอนว่าตั้งแต่มีเรื่องขอประเด็น SOPA และเรื่องของปัญหาลิขสิทธิ์อื่นๆ มามากมายแล้ว เว็บไซต์หนึ่งที่โดนผลพลอยได้ไปแบบเต็มๆ ลูกก็คงหนีไม่พ้น Megaupload ที่เป็นเว็บแรกที่โดนดำเนินคดีเบิกฤกษ์ไป การจับกุมข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์กับ Megaupload นั้นเล่นเอาวงการผู้ใช้ และนักลงทุน ผู้ประกอบการในโลกอินเทอร์เน็ตหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆกัน
Kim Dotcom โปรแกรมเมอร์ และอดีตแฮ็ดเกอร์สัญชาติเยอรมันกลายเป็นบุคคลที่หลายคนรู้จักขึ้นมาทันทีภายหลังที่เว็บไซต์ Megaupload ที่ให้บริการฝากไฟล์ออนไลน์นั้นโดนฟ้องร้องข้อหาละเมิกลิขสิทธิ์ ชื่อของชายผู้นี้เลยถูกระบุให้กลายเป็น วายร้ายระดับโลก(อินเทอร์เน็ต) ไปทันทีซึ่งทำให้ชื่อเสียงเรียงนามของนาย Kim DotCom ได้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเดิมทีนั้นก็มีชื่อเสียงกระฉ่อนอยู่แล้วในช่วงปี 2000 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นของเยอรมันด้วยวิธีของเขา แน่นอนว่ารายละเอียดอาจจะไม่ชัด แต่ไม่ใช่วิธีที่ดีแน่นอน
ตอนนี้ Kim Dotcom ก็ได้โดนคดีใหญ่อีกแล้วกับคดีของ Megaupload เมื่อวันที่ 20 มค. 2012 ที่ผ่านมาช่วงที่มีกฏหมาย SOPA เมื่อเว็บไซต์ Megaupload ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมข้อหา อาชญากรรมละเมิดลิขสิทธิ์โดยเจตนา และกระทำการอย่างต่อเนื่อง โดยทราบดีถึงข้อกฏหมายและข้อบังคับ ซ้ำร้ายยังโดนหางเลขในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ไฟล์มาแล้วยังมาขายเอาเงินแก่ผู้ที่เข้ามาดาวน์โหลด แบบ High Speed ไปด้วย ซึ่งกฏหมายดังกล่าวที่โหมเข้ามาถึงกับทำให้ Kim DotCom กลายเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต้องถูกส่งตัวกลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อดำเนินคดีเลยทีเดียว ซ้ำร้ายยังต้องไปเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ฟ้องร้อง และแจ้งความนั่นคือ ค่ายเพลง เกือบทุกค่ายที่เขาละเมิดลิขสิทธิ์มา
คดีที่ Kim Dotcom แห่ง Megaupload โดนค่ายเพลง ทั่วโลก โจมตีในเรื่องของการละเมิดไฟล์เพลง และดนตรีไปไว้ยังบริการของตนคือ Megaupload กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ ผู้ให้บริการด้านการฝากไฟล์ผ่าน Cloud Storage ทั้งหลายเกิดความกังวลใจกันยกใหญ่ เพราะว่าบริการฝากไฟล์ทั้งหลายเช่น Dropbox, SkyDrive และบริการมากมายกว่า พัน บริการ ล้วนจะต้องมีการฝากไฟล์ที่ละเมิลิขสิทธิ์อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของตนแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดจากความตั้งใจ และไม่ตั้งใจ
คดีที่ทาง Megaupload ต้องเผชิญนั้นทำให้เหล่าคนในวงการอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ต่อผลของการดำเนินคดีของรัซบาลสหรัฐฯ ครั้งนี้ว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ซ้ำยังจะทำให้นักลงทุน และผู้ให้บริการรู้สึกกลัว จนไม่กล้าที่จะทำอะไรต่อในระยะยาว
ก็กลายเป็นดราม่าปลายเปิดไปทันทีกับประเด็นของ Megaupload ที่ตอนนี้ก็เริ่มคลี่คลายไปบ้างแล้ว
ยังไงเสียส่วนตัวก็ยังคิดว่า บางครั้งเราต้องมีการตัดสินใจในเรื่องของความเสียหายของเจ้าของลิขสิทธิ์ กับความเสียหายของสังคมออนไลน์ ที่เกิดจากผลกระทบ จริงที่ว่า Megaupload อาจจะเก็บไฟล์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ แต่นั่นเกิดจากผู้ใช้งานบริการอีกที ดังนั้นการไปเอาผิดกับผู้ให้บริการฝากไฟล์นั้น อาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดูฉลาดเท่าใดนัก