คราวนี้มารวมรวบสถิติความนิยมในเรื่องของเทคโนโลยี และนวัตกรรมทั้งแบบอุปกรณ์ บริการ หรือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งในปี 2012 นี้มีตัวเลขต่างๆ มากมายจากหลายสำนักที่ทำการวิจัย และวิเคราะห์ออกมาให้เราได้ศึกษาถึงแนวโน้มต่อไปในปีหน้า แน่นอนว่าสถิติดังกล่าวที่กำลังจะเอามาเผยแพร่ในบทความนี้นั้น Twitter, Apple,Samsung และ Google Android ต้องดีใจแน่นอนครับ
เรามาเริ่มกันที่ตัวเลขแรกก่อนดีกว่าครับ นั่นคือสถิติที่น่าสนใจของ Apple App Store ซึ่งตอนนี้ทราบหรือไม่ว่า แอพพลิเคชันที่ใช้งานบนแท็บเล็ตชื่อดังอย่าง iPad, iPad2 ของ Apple นั้นมีอัตราเติบโตครบ 100,000 แอพฯ ภายในเวลาเฉลี่ยเพียง 7 เดือน และมีแนวโน้มเติบโตต่อไปเรื่อยๆในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
ถัดมาคือด้านของสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone7 นั้นมีจำนวนแอพพลิเคชันมากกว่า 250,000 แอพฯ แล้วใน Marketplace ของ Windows Phone 7 แต่ถือว่ายังน้อยกว่าของ Apple App Store ที่ตอนนี้มีแอพพลิเคชันให้ดาวน์โหลดมากกว่า 500,000 แอพฯ ยังไงก็สู้ๆนะครับ
ส่วน Android นั้นไม่ต้องห่วงอะไรเลย รู้หรือไม่ว่า อัตราการเปิดใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android ในทุกๆวันนั้นมีสูงถึง 500,000 ครั้งเท่าจำนวนแอพพลิเคชันของ Apple App Store ครับ
ต่อมาคือ Samsung Galaxy S II นวัตกรรมหลักทำเงินของ Samsung นั้นในระยะเวลา 55 วันในการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S II ยอดขายทะลุ 3 ล้านเครื่อง หรือเฉลี่ยมีการซื้อ-ขายสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ตกที่ 1.5 วินาทีต่อ 1 เครื่อง เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับตัวเลขมากจริงๆ ครับ
ส่วน HTC ก็ใช่ย่อยหลายคน คงไม่ทราบว่าสมาร์ทโฟนคลาสสิค มีสไตล์ตัวนี้นั้นได้ดีกรีถึงอันดับ 4 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลกเลยครับ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังครองตำแหน่งนั้นอยู่ ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ
สำหรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) หรือ สื่อสังคม (Social Media) นั้นตัวเลขที่น่าตกใจ Twitter มีการทวิตข้อความไปมาระหว่างกันอยู่ที่ 200 ล้านข้อความ หรือ 200 ล้าน Tweet ครับทั้งๆที่ ปี 2010-2011 นั้นยอดการ Tweet ข้อความยังอยู่ที่ 65 ล้านข้อความต่อวันอยู่เลย อันนี้เรียกว่าความนิยมสูงของจริง
ตัวเลขหลักล้านอีกตัวที่เป็นสถิติที่น่าขนลุกบนโลกอินเทอร์เน็ตก็คือ จำนวนของผู้ที่โดนไวรัสคอทพิวเตอร์ที่ชื่อว่า BotNets TDL4′ เล่นงาน ซึ่งเจ้าไวรัสตัวนี้ขึ้นชื่อว่าตายยากตลอด 3 เดือนที่่ผ่านมา สถิติผู้ที่โดนไวรัสตัวนี้อยู่ที่ 4.5 ล้านราย ซึ่งต้องถามว่าคุณเป็น 1 ในนั้นหรือเปล่า?
สุดท้ายเป็นแนวโน้ม และข้อเท็จจริงที่น่าจะสั่นสะเทือนวงการดิจิตอลมีเดีย (Digital Media) แน่ๆ นั่นคือการที่ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2015 นั้นหนังสือเรียนแบบกระดาษจะไม่มีอีกต่อไป ซึ่งทางเกาหลีใต้จะนำหนังสือดิจิตอลมาเป็นสื่อหลักในการพัฒนาการศึกษาแบบจริงจังแทน ตำราเรียนคลาสสิคก็ต้องเก็บเข้ากรุสินะ คอนเท็นต์ดิจิตอลการเรียนการสอนเค้าพร้อมแล้วจริงๆ แหละครับ ประเทศเค้าลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชันการเรียนแบบ Digital เลยไม่ได้แค่เอางบมาสแกนหนังสือเป็น PDF อย่างเดียว
อ้างอิง: T3 Network Resource
{ga=i-am-daydev}