Google ได้ปล่อยข้อมูลน่าสนใจออกมาบนอินเทอร์เน็ตเป็นภาพ Infographic เกี่ยวกับการวิจัยว่าผู้บริโภคนั้นก็ใช้ Devices ที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มชื่อของ Infographic ตัวนี้มีชื่อว่า “The New Multi-screen World: Understanding Cross-Platform Consumer Behavior” ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การตลาดในยุคนี้นั้น 90% ของโอกาสที่กลยุทธ์ของเรานั้นจะสำเร็จมันขึ้นอยู่กับอุปกรณ์หรือ Devices ของผู้บริโภคด้วย และโอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุดคือช่วงเวลาของการเดินทาง และการเดินทางก็จะมีผลต่อการใช้งานอุปกรณ์สื่อสาร อาจจะเพราะว่ามันน่าเบื่อเลยหยิบมาเล่น (ตรงนี้เราๆ ก็น่าจะรู้กันดี) เพราะว่ายุคนี้ผู้บริโภคเช็คอีเมลจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ระหว่างที่เดินทางอยู่บน รถไฟ รถไฟฟ้า รถโดยสาร ระหว่าง บ้านไปยังที่ทำงาน
90% ของ Media ทั้งหมด อยู่บนหน้าจอไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ประเภทไหนหรือรุ่นใดๆ ก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้ว เราทุกคนใช้เวลาในการ Concentrate กับหน้าจอ 4.4 ชั่วโมงต่อวัน (2 ตาจับจ้องหน้าจอตลอด ยกเว้นเวลามีสาวๆ เดินผ่านนะครับ) สำหรับDevices หรืออุปกรณ์หลักๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ นั้นหนีไม่พ้น 4 ขุนพล TV (ซึ่งน่าจะเป็น Smart TV) โดยเฉลี่ย 43 นาที เครื่องคอมพิวเตอร์ PC และแล็บท็อป 39 นาที แท็บเล็ต 30 นาที และ สมาร์ทโฟน 17 นาที โดยเวลาเฉลี่ยนั้นเป็นค่าเฉลี่ย ต่อการใช้งานหรือ Interaction (Avg. time spent per interaction)
24% ของสื่อ (Media) ทั้งหลายที่เราสนใจนั้นอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป และพีซี โดย 40% ของส่วนนี้เป็นการค้นหา Information และ 29% เป็นการอัพเด็ตเรื่องทั่วๆไปให้ตามเทรนด์ สำหรับการใช้งานนั้น 69% ของเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีและแล็ปท็อป มักมาจากการใช้งานจากที่บ้าน 31% ใช้งานนอกบ้าน
สื่ออีกประเภทมี 38% บนสมาร์ทโฟน ซึ่งมีการแบ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนออกเป็น 2 ส่วน คือใช้สำหรับติดต่อสื่อสาร 54% และเพื่อความบันเทิง 33% โดยมี 60% ใช้งานสมาร์ทโฟนที่บ้าน และอีก 40% ใช้งานเวลาพกพาออกไปข้างนอกบ้านทำกิจกรรมต่างๆ
ที่ดูจะยังเนิบนาบคือแท็บเล็ต มีสื่อปรากฎบนหน้าจอเพียง 9% เท่านั้น ซึ่งแท็บเล็ตนั้นเราก็พอจะรู้อยู่แล้วว่า มันมีไว้สำหรับความบันเทิงมากกว่า ดังนั้นจึงมี 63% สำหรับเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนัง และอีก 32% สำหรับติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) และอีเมล โดย 79% นั้นใช้งานจากที่บ้าน ส่วนพกพาไปใช้งานนอกบ้านนั้นก็ 21% ดูจะน้อยที่สุดเลย
ยังไงก็ตามสื่อที่ปรากฏบนหน้าจอของ Devices ทั้งหลายนี้ 34% เป็นสื่อที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร Informationได้มากที่สุด โดย 80% บนสมาร์ทโฟนนั้นมีผู้บริโภคใช้ค้นหาข้อมูลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีและแล็ปท็อปนั้นมีการค้นหาข้อมูลลดลงเหลือเพียง 48% เท่านั้น
เรื่องของ Multi-Screen
แน่นอนว่าคนคนหนึ่งใช้งาน Devices อย่างน้อยๆ 2 เครื่องร่วมกันแน่นอน เพื่อให้ให้งานสำเร็จลุล่วง และความสัมพันธ์ของเนื้องานที่จะสลับไปมาระหว่าง Devices ก็จะเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกันเช่น ถ้าเป็นการทำงาน หรือเดินทาง สมาร์ทโฟน และ คอมพิวเตอร์พีซี หรือแล็ปท็อป จะใช้ร่วมกัน สำหรับเกมหรือความบันเทิง จะเป็น TV กับแท็บเล็ตประมาณนั้นครับ
90% เราทุกคนตอนนี้มี Devices มากกว่า 2 เครื่องแล้ว และใช้งานร่วมกันเสมอ 98% มีการเปลี่ยนการทำงานผ่านอุปกรณ์ตลอดจากคอมพิวเตอร์ไปสมาร์ทโฟน จากสมาร์ทโฟนไปแท็ปเล็ต โดย Information นั้นหลักๆ ก็ เล่นอินเทอร์เน็ต 81% เข้าเครือข่ายสังคม Social Network ประมาณ 72% ซื้อของออนไลน์ 67% และส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์แรกในแต่ละวันที่จะเลือกมาดูข้อมูลนั้นคือ สมาร์ทโฟน และถ้าขั้นตอนการทำงานในการเข้าถึงข้อมูลเริ่่มซับซ้อน ผู้ใช้ก็จะย้ายมาเป็นคอมพิวเตอร์ ส่วน แท็บเล็ตนั้นเป็น Devices สำหรับพกไปเป็นทางเลือกในช่วงที่ต้องตัดสินใจซื้อสินค้าแล้ว
แล้วถ้ามี Devices ทั้งหมด 3 เครื่องแล้วชีวิตจะเป็นยังไง
แน่นอนคุณก็จะสลับไปมาไม่หยุดหย่อน โดยไลฟ์สไตล์ของชีวิตคุณจะอยู่ที่ การเช็คอีเมล 60% เข้าเว็บไซต์ 44% ทักทายเพื่อนบน Social Network 42% ระหว่าง 3 อุปกรณ์นี้ครับ และศักยภาพของตัวคุณ ถ้ามองในแง่ดีคือสามารถแบ่งการรับรู้ได้มากถึง 78% ในการสลับ Devices หรือ Multi Screen ถ้ามองในแง่ร้ายคือ คุณเสียเวลาในการเสพสื่อไป 78% จากการบ้าหอบฟางอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งผลวิจัยของ Google บอกกับเราแล้วว่า Multi Screen Working จะสำเร็จในแง่ธุรกิจหรืองานใดๆ นั้นมีโอกาสแค่ 22% ดังนั้นทำบน Devices สักอย่างให้จบๆ ไปเลยดีกว่าครับ
เรื่องของการ Shopping Online
59% ผู้บริโภคใช้สมาร์ทโฟนซื้อของออนไลน์จากบ้าน และ 41% ใช้ซื้อของนอกบ้าน ทำให้อัตราการใช้สมาร์ทโฟนในการ Shopping นั้นสูงถึง 81% รองลงมาคือคอมพิวเตอร์พีซีและแล็ปท็อป 42% และเชื่อไหมว่า 67% ตอนนี้ก่อนที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าใดๆ ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ จะต้องมาดู Informationผ่าน Devices ทั้งหมดก่อนตลอด
จาก Infographic ตัวนี้จะทำให้นักการตลาดทราบแล้วว่า เมื่อถึงยุคของวัฒนธรรมหน้าจอหรือ Screenature แล้ว กลยุทธ์ Mobile Optimization เป็นสิ่งจำเป็นขึ้นมาทันทีและเกิดโจทย์ในหัวขึ้นมาแน่ๆ ว่า ทำยังไงดีที่จะ Integrate โฆษณาบนโทรทัศน์ยังไงให้มันรองรับ ออนไลน์ เพราะว่าตอนนี้ออนไลน์ไม่ใช่สิ่งที่ไป Support ออฟไลน์แล้วนะครับ
ดาวน์โหลด Infographic ตัวเต็มที่นี่
Download the full report from Google here.