ความแรงของ Social Media หรือสื่อสังคมที่ถูกนำเสนอตลอดปี 2011-2012 ที่มีกลุ่มผู้บริโภครับรู้แบรนด์ได้มากที่สุดนั้นก็คงหนีไม่พ้น Video On-Demand หรือ Internet TV ที่ถูกนำเสนอในเว็บไซต์ YouTube เพราะนับตั้งแต่มีการเปิดตัวเว็บไซต์ YouTube มานั้น ยังไม่มีทีท่าที่ผู้บริโภคจะเพิกเฉยต่อเนื้อหาของ Video ในเว็บไซต์นี้ อีกทั้งแบรนด์สินค้า และบริการชื่อดังต่างๆ ก็หันมาใช้ YouTube เป็นช่องทางในการทำ PR และ การตลาดผ่าน Social Media Marketing มากขึ้นอีกด้วย
ต้นทุนต่ำแต่ ROI สูง
งบประมาณในการสร้างคอนเท็นท์ หรือเนื้อหาในรูปแบบ Video ในเว็บไซต์ YouTube นั้นแบรนด์สินค้า และบริการต่างๆ สามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างสบาย ด้วยการผลิตที่ถือว่าต่ำกว่าการไป สร้างรายการโทรทัศน์ออกอากาศบน TV แค่เปลี่ยนการนำเสนอมาอยู่บนเว็บไซต์ YouTube บวกกับเนื้อหาที่แปลกใหม่ นำเสนอได้น่าสนใจ ที่ควบคุมการผลิตได้ในราคาที่ไม่สูงเกินไปเพียงเท่านี้ ก็สามารถเข่้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ที่ถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้า และบริการที่ได้ นำเสนอเนื้อหาคอนเท็นท์ออกไปบน YouTube ได้เป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคสมัยนี้เค้าไม่สนใจงานโปรดักชั่นที่หรูเลิศเกินไปแล้ว ยุคนี้เนื้อหาดีย่อยง่ายก็เป็นที่นิยมล้นหลาม
Brand Content คือสิ่งสำคัญของการสร้างVideo บน YouTube
แน่นอนว่า Video ที่ถูกนำเสนอในเว็บไซต์ YouTube นั้นจะต้องมีการวางแผนที่จะนำเสนอ ก่อนจะเริ่มต้นทำจริง ซึ่งตัวอย่างที่เห็นมากมายบน YouTube นั้นไม่ว่าจะเป็น รายการของโมเมพาเพลิน, ภาษาพลาซ่า หรือ เทยเที่ยวไทย ต่างก็จะสร้าง Brand Content ของตนให้ดูน่าสนใจบนเนื้อหาของความสนุกสนานเป็นที่น่าจดจำ แต่ก็ไม่ละเลยที่จะแทรกสาระความรู้เข้าไปในรายการที่นำเสนอ นอกจากรายการ Internet TV แล้วการสร้าง Brand Content ที่มีผลต่อการโฆษณา อย่างแคมเปญโฆษณาผ่าน Video ของ Samsung ตั้งแต่ Galaxy Note ที่เดินวาดรูปสาวๆ ตามสถานที่ต่างๆ และอีกแคมเปญคือการโปรโมตเรื่องราวความรักของ หนุ่ม-สาว ผ่านแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab ที่ชื่อว่า Love at first flight ที่ทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมและสนุกไปกับเนื้อหาทีนำเสนอ และซึมซับตัวสินค้าผ่าน แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากแบรนด์ของสินค้า และบริการคนธรรมดาที่อยากจะสร้างชื่อเสียงของตนให้เป็นที่รู้จักก็สามารถใช้ YouTube เป็นช่องทางนำเสนอได้ แน่นอนว่าแนวทางนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2009 มา จนมาพีคสุดๆ ปี 2010ที่มีหลายวงดนตรีเหลือเกินที่ดังกันไม่หวาดไม่ไหวอย่าง Room39 เป็นต้น
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคสื่อผ่าน YouTube คือ ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเนื้อหาที่ป้อนถึงปาก และย่อยง่าย อย่างการชม Video ซึ่งช่วงหลังๆ มันเป็นเรื่องจริงซะด้วย ผู้เขียนเองเริ่มสังเกตุเห็นช่วงปลายปี 2011 เนื่องจากว่า รีวิวสินค้าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือ สมาร์ทโฟน การ์ดจอคอมพิวเตอร์ ในช่วงหลังมีคนอ่านเนื้อหาผ่านเว็บไซต์ และ บล็อค (Blog) น้อยลง และหันไปชมรีวิวจาก Video มากขึ้นแทน ซ้ำเนื้อหาของ Video หากมีการแทรกความสนุกสนาน และตลกขบขันลงไป ก็ยิ่งจะเป็นการผูกให้ผู้บริโภคกลุ่มนั้น จดจ่อ และติดตามเนื้อหาในช่วงถัดๆไป ทำให้ Feed Back ของ Video Content นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์ และ บล็อค อีกทั้งความเร็วของอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงคอนเท็นท์ หรือเนื้อหา เหล่านี้ก็รวดเร็วผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟร หรือ แท็บเล็ต เพราะทุกวันนี้พวกเราก็ได้เดินทางเข้าสู่ยุค 3G หมดแล้ว
ยังไงเสีย YouTube ก็ยังคงจะผงาดอย่างยิ่งใหญ่ต่อไปในปี 2012 นี้ และยังคงเป็นสื่อสังคม หรือ Social Media ยักษ์ใหญ่ที่รองรับความบรรเทิง และการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เพราะราคาที่ถูกกว่า รวดเร็วกว่า เข้าถึงผู้บริโภคได้ไวกว่า ลองเทียบกับโทรทัศน์ Free TV กับกฏเกณฑ์มากมายข้อจำกัดเป็น ร้อยเป็นพัน ส่วนไปลงทุนกับ Cable TV ก็แพงจนเกินจะรับได้
วันนี้คุณมีช่องรายการของตัวเองบน YouTube แล้วหรือยังครับ?
ตัวอย่างของประเด็นนี้ ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ เรื่องราวของการมีส่วนร่วมที่ปรากฏในบทความนี้ครับ Crowdsourcing Movie “หนังร่วมสร้าง”