สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่วางขายอยู่ในตลาดขณะนี้มักจะมีฟีเจอร์ไม่ต่างกันมากนัก เนื่องจากใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกัน ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำเป็นต้องสรรหาฟีเจอร์เด่นที่จะทำให้รุ่นนั้นๆ แตกต่างจากคู่แข่งมากที่สุด หนึ่งในนั้นคือ การนำเทคโนโลยี 3D มาใช้บนอุปกรณ์พกพา แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่ (เพราะมีมาเกือบ 10 ปีแล้ว) แต่ด้วยกระแสคอนเท้นท์ 3 มิติมาแรง ทำให้เกิดการพัฒนามือถือ 3D อย่างจริงจัง
ปัจจุบันมี 2 รุ่นจาก 2 แบรนด์ชิงชัยในตลาดครับ นั่นก็คือ LG Optimus 3D และ HTC Evo3D วันนี้เราจะจับ 2 สมาร์ทโฟนจอ 3D มาชนกันครับ ฟันธงว่าใครน่าใช้กว่ากันแบบตัวต่อตัว ใครเล็ง 2 รุ่นนี้ไว้เชิญติดตามได้เลย
เรื่องของ Interface
Optimus 3D มาพร้อมกับอินเตอร์เฟซ LG Home 2.0 เช่นเดียวกับบนรุ่นพี่ Optimus 2X ดังนั้นการใช้งานจึงไม่ต่างกัน ไอคอนต่างๆ จะดูมีสีสันฉูดฉาด การใช้งานไม่ยากครับ เพราะไม่มีเมนูปรับแต่งอะไรมากนัก เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ค่อยยุ่งกับหน้า Home เท่าไหร่ มีอะไรมาให้ก็ใช้ไปตามนั้น แน่นอนว่าไม่ได้มาเป็นแบบ 3D นะจ๊ะ แสดงผลเป็น 2 มิติธรรมดานี่แหละ
ส่วนของ HTC Evo3D จะติดอินเตอร์เฟส Sense 3.0 UI มาให้ในตัว เหมือนกับบน Sensation เมนูจะออกแนวเรียบๆ หน้า Home หมุนวนเป็นแบบวงกลม 3 มิติครับ ที่น่าสนใจคือ UI สามารถปรับแต่งได้สารพัด ทั้งธีม-วอลเปเปอร์-สีสัน รวมถึง Widget ที่มากับระบบ สามารถใช้งานได้จริงๆ บางทีคุณไม่จำเป็นต้องเข้าเมนูด้านในก็จัดการงานต่างๆ ได้แล้ว อย่างไรก็ดี ด้วย UI อันวิลิศมาหรา ก็ค่อนข้างจะกินทรัพยากรเครื่องเยอะ และใช้งานยากสำหรับมือใหม่
ขอฟันธง
HTC ออกแบบอินเตอร์เฟซได้ดีเหมือนเดิมครับ ในขณะที่การใช้งานค่อนข้างลื่นไหล จากอานิสงส์ของซีพียู Dual-Core พร้อมฟีเจอร์การใช้งานบน Widget สารพัดแบบที่มีมาให้ ค่อนข้างมีประโยชน์ใช้สอยมากทีเดียว แต่ถ้าไม่ชอบอะไรยุ่งยากแบบนั้น ก็อาจลองดูของ LG ได้เหมือนกัน ความสามารถน้อยกว่า แต่ใช้งานง่าย สีสันสดใส ดูสบายตากว่าเห็นๆ
ส่วนของหน้าจอ Display
LG เลือกใช้หน้าจอแบบ TFT-LCD (ไม่ใช่ IPS-LCD นะคร้าบ) บน Optimus 3D พร้อมกับ 3D Panel เพื่อให้สามารถชมคอนเท้นท์ 3 มิติได้โดยไม่ต้องใส่แว่นตา ความละเอียดหน้าจอ 800×480 พิคเซล รองรับมัลติทัชที่ 10 จุด (ตามจริงแล้วใช้อย่างมากก็ 2 นิ้ว), ผิวกระจก Gorilla Glass คงทนต่อแรงกด-ขีดข่วนได้มาก การตอบสนองสัมผัสทำได้ดีครับ ส่วนการชมภาพแบบ 3D มิติจะไม่ลึกมากนัก แต่ก็สามารถปรับความลึกของภาพได้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า HTC เป็นฝ่ายที่กำชัยชนะด้านหน้าจอไปอีก 1 คะแนน จากหน้าจอ S-LCD 4.3 นิ้ว ความละเอียด 960 x 640 พิกเซล (qHD) ทำให้การแสดงผลทำได้เนียน ละเอียดกว่าที่เคยเป็น และสว่างสู้แสงกลางแจ้งได้ดี รองรับมัลติทัช 10 จุดครับ ความลึกของภาพ 3D บนรุ่นนี้ค่อนข้างมากกว่า และไม่สามารถปรับเพิ่ม-ลดได้เลย แต่ก็มีข้อดีตรงที่ คุณไม่ต้องเพ่งนานๆ ก็มองเห็นเป็นแบบ 3 มิตินูนขึ้นมาแล้ว
ขอฟันธง
หากคุณชื่นชอบการดูหนัง – เล่นเกมบนมือถือ งานนี้ต้องยกให้ HTC Evo3D เป็นฮีโร่ในด้านนี้ เพราะจอสวยกว่า มิติ 3D ลึกกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยความละเอียดที่สูง ทำให้การประมวลผลกราฟิกอาจดูช้าไปบ้างในบางครั้ง หากคุณไม่สนใจหน้าจอมากนัก LG ก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่เหมือนเดิม แม้จอจะหยาบกว่านิดหน่อย การสัมผัส – ความคงทนดูโอเคกว่าครับ
ส่วนของระบบปฏิบัติการ
Optimus 3D มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 2.2.1 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการอัพเกรดค่อนข้างช้า (ไม่รู้เป็นเพราะฟีเจอร์อลังการงานสร้างรึเปล่า) คาดว่าจะได้อัพ Android 2.3.x ช่วงสิ้นปี 2011 นี้ อย่างไรก็ดี การทำงานโดยรวมถือว่าเร็วพอใช้ แต่มีหน่วงๆ บ้าง ส่วนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลงได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ส่วน Evo3D เรื่องโอเอสดีกว่าเล็กน้อยตรงที่จัด Android 2.3.4 มาให้เลยในตัว ทำให้การใช้งานโดยรวมดูคล่องตัว ลื่นไหลกว่าชัดเจน ฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ต่างจากฝั่งของ LG ครับ แอพฯ ต่างส่วนใหญ่รองรับได้เป็นอย่างดี แต่บางตัวอาจยังไม่รองรับหน้าจอ qHD ก็อาจจะเหลือขอบบ้าง ตรงนี้ต้องทำใจครับ
ขอฟันธง
ระบบปฏิบัติการ (OS) ใหม่ย่อมดีกว่าเสมอครับ เพราะจะได้ความเสถียร ความเร็ว และเป็นการแก้บั๊กหลายๆ ตัวในระบบด้วย ซึ่งตรงนี้ Evo3D ก็ได้เปรียบกว่าอีกข้อ เพราะติดซอฟต์แวร์ (เกือบ) ล่าสุดมาเลย ในขณะที่ Optimus 3D นั้นยังคงอยู่ที่ 2.2.1 แถมกว่าจะอัพเดตก็ช้าอีก เท่าที่ได้ยินมาก็น่าจะคุ้มกับการรอคอยนะครับ เพราะพี่แกอัดฟีเจอร์ใหม่มาเพียบเลย (อย่างอัพเดตล่าสุด V10c เพิ่มตัว 3D Game Converter) ทั้งนี้ก็ต้องรอดูว่าปีหน้าทั้ง 2 รุ่นนี้จะได้อัพ Android 4.0 หรือ Ice-Cream Sandwich หรือไม่?
หน่วยประมวลผล
ชิพซีพียูบนสมาร์ทโฟน 3D เป็น Dual-Core แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ! สำหรับบน Optimus 3D มาพร้อมกับชิพ TI OMAP4430 1GHz (ชิพกราฟิก PowerVR SGX540) แรงเร็วสะใจ ทดสอบ Quadrant ได้เกิน 2,500 คะแนน น่าเสียดายที่ติดแรมมาให้เพียง 512MB (แบบ Dual-Channel 256*2) แต่โดยรวมแล้วทำได้ดีทีเดียว สามารถดูหนัง 3D 720p, 2D 1080p และเล่นเกม 3D ได้ลื่นไหลครับ ไม่มีปัญหา หวังว่ารุ่นต่อไปต้องจัดให้หนักกว่านี้แล้วนะเนื่ย 😀
ฟากของ HTC ก็ไม่น้อยหน้า บน Evo3D มาพร้อมกับซีพียูระดับ Dual-Core เช่นเดียวกัน แต่เป็นของค่าย Qualcomm MSM8260 ความเร็วที่ 1.2GHz (ชิพกราฟิก Adreno 220) ความเร็วถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แรมใส่มาเต็มๆ 1GB เรื่องความลื่นไหลหายห่วง ชมหนัง HD ได้สบาย อย่างไรก็ดี จากที่ทาง i3 ได้เคยทดสอบไป พบว่าเกม 3D บางเกม บางครั้งเกิดอาการหน่วงบ้าง อาจจะเป็นเพราะความละเอียดหน้าจอที่ค่อนข้างสูง ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องมากกว่าปกติ นอกนั้นอย่างเล่นเว็บ แชท ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วล่ะครับ
ขอฟันธง
ทั้ง 2 รุ่นติดจรวดแบบ Dual-Core มาเหมือนๆ กัน ทำให้เรื่องประสิทธิภาพดูไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการใช้งานจริงยังมีอีกมากเช่น แอพพลิเคชั่น, ระบบปฏิบัติการ, การตั้งค่าระบบ, ความละเอียดหน้าจอ ฯลฯ โดยรวมแล้ว ผมว่า Optimus 3D อาจทำได้ดีกว่าหากแรม 1GB งานนี้รวมๆ Evo3D จะตอบโจทย์ได้มากกว่า หากต้องการใช้งาน Multitasking หลายๆ โปรแกรมในเวลาเดียว
หน่วยความจำ Memory
เป็นหนึ่งในข้อดีของ Optimus 3D ที่มีหน่วยความจำภายในมากถึง 8GB ในตัว (ถูกดึงไปใช้ 4GB สำหรับ System + Internal Storage) ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้เลยโดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่เมมการ์ดเพิ่ม (ถ้าคิดว่าใช้พอ) และข้อดีอีกอย่างนึงก็คือ สามารถทำงานได้เร็วกว่าเมมโมรีการ์ดทั่วไป แต่ถ้าคุณคิดว่าเมมภายในไม่พอ แนะนำให้หา MicroSD Class 10 มาใส่เพิ่มครับ เพราะความเร็วในการอ่าน/เขียนค่อนข้างไว จำเป็นมากหากต้องบันทึก – ชมวิดีโอระดับ HD และราคาตอนนี้ถือว่าไม่แพง 16GB ของ Transcend อยู่ราวๆ 1 พันบาทนิดๆ คุ้มกำลังดี
แต่ .. HTC Evo3D กลับมีเมมโมรีภายในเพียง 1GB เท่านั้น สำหรับลงแอพพลิเคชั่น ดังนั้น MicroSD จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ใส่ได้สูงสุดที่ 32GB ครับ แนะนำให้ใช้เป็น Class 10 เพื่อความเร็วอ่านเขียนสูงสุด จะได้ไม่กระตุกตอนถ่าย – ชมวิดีโอด้วย (โดยเฉพาะความละเอียด Full HD)
ขอฟันธง
สมาร์ทโฟนปัจจุบัน “ควร” มีเมมโมรีภายในอย่างน้อยๆ 4GB ครับ เพื่อใช้เก็บข้อมูล, ลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่ง Optimus 3D สอบผ่าน ณ จุดนี้ (จริงๆ ก็อยากได้สัก 16GB :P) แต่ Evo3D กลับมีเมมโมรีภายในน้อยไปหน่อย ภาระจึงตกกับผู้ใช้ที่ต้องซื้อเมมการ์ดดีๆ มาใส่เพิ่ม หวังว่าในรุ่นต่อๆ ไป คงไม่ขี้เหนียวเมมโมรีนะครับ
ส่วนของ Multimedia
การใช้งานด้านมัลติมีเดียบน Optimus 3D โดยรวมแล้วไม่แตกต่างจากไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ แต่อย่างใด มีเครื่องเล่น MP3, เครื่องเล่นวิดีโอ (ความละเอียดสูงสุด Full HD (2D), HD720p (3D)) ต่อสตรีมมิ่งออก HDTV ได้ด้วยนะครับ หากทีวีรองรับ 3D ด้วยก็สบายเลย (ในชุดขายมีสาย HDMI v1.4 แถมให้) เช่นเดียวกับเกมที่รุ่นนี้เล่นได้ทั้งเกม 2D ปกติ และ 3D (Pre-Install มาให้ 11 เกม !) นอกนั้นก็จะเป็น Youtube ที่มีติดมาทุกเครื่องอยู่แล้ว
ส่วนบน Evo3D ก็ไม่ต่างจาก Optimus 3D มากนัก แต่จะต่างกันตรงที่การเชื่อมต่อออก HDMI จะต้องทำผ่านตัวแปลง MHL Adapter (790 บาท) สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของ Galaxy S II ได้ครับ สตรีมมิ่ง HD1080p เต็มเหนี่ยว แต่น่าเสียดายที่เกมในเครื่องมีค่อนข้างน้อย หากชื่นชอบการเล่นเกมคงต้องซื้อเพิ่ม
ขอฟันธง
จากความสามารถทาง Multimedia ที่ใกล้เคียงกัน คงตัดสินได้ยากว่าใครจะเป็นผู้ชนะ เท่าที่ดูแล้วทาง i3 ให้ทาง Optimus 3D เป็นฝ่ายนำชัยละกันครับ เนื่องจากมีพอร์ต MicroHDMI มาตรฐาน หาซื้อง่าย (มีแถมให้ในกล่องอีก), มีเกมจาก Gameloft ลงมาให้พร้อม 11 เกม ผมว่าตรงนี้ช่วยผู้ใช้ประหยัดค่าแอพฯ ไปได้หลายร้อยบาทอยู่นะ
3D Experience
บน Optimus 3D ในส่วนของการใช้งานแบบ 3 มิติจะมี “3D Hub” เป็นแหล่งรวมการใช้งานในโหมด 3D ทั้งหมดที่มีในเครื่อง เช่น Youtube 3D, 3D Gallery, Video Player ฯลฯ โดยเมนูจะเป็นแบบ 3 มิติจริงๆ นูนออกมาเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูภาพ 3D อย่างเหมาะสมให้ผู้ใช้มือใหม่ได้ศึกษาด้วย สำหรับการใช้งานโหมด 3D ในรุ่นนี้สามารถปรับความลึกของภาพได้เกือบทุกฟีเจอร์ ทั้งใน Gallery, วิดีโอ, เกม แต่ภาพที่เห็นอาจจะออกหยาบเล็กน้อย จากความละเอียดหน้าจอที่ไม่สูงนักครับ นอกจากนี้ยังมี 3D Game Converter ที่สามารถแปลงภาพเกม 2D (ที่รองรับ OpenGL) ให้เป็น 3D ได้ด้วย แต่ภาพจะไม่ลึกเท่าเกม 3D จริงๆ
Evo3D ไม่มี 3D Hub เหมือนของ LG ครับ ดังนั้นทุกอย่างจึงผสมโรงอยู่ในเมนูหลักหมด โดยโหมดที่ใช้ 3D ได้คือ กล้อง, Gallery, เกม, เครื่องเล่นวิดีโอ และ Youtube มีเกมลงมาให้เพียง 3-4 เกมเท่านั้น ที่เหลือต้องซื้อเพิ่มเองหมด, ไม่สามารถปรับความลึกของภาพได้ แต่รุ่นนี้ก็ยังมีสิ่งที่เหนือกว่า Optimus 3D ตรงที่หน้าจอคมชัด เนียน มองภาพ 3D ได้ง่ายกว่า ไม่ต้องเพ่งนานอย่างที่คิด
ขอฟันธง
ฟันธงได้ไม่ยากว่า LG Optimus 3D ถูกออกแบบซอฟต์แวร์มาตอบสนองการใช้งานด้าน 3D มากกว่า HTC Evo3D เอาแค่ 3D Hub ก็กินขาดแล้วครับ เพราะผู้ใช้ไม่ต้องไปงมหาเมนูเอง รวมมาให้เสร็จสรรพ เช่นเดียวกับคอนเท้นท์ต่างๆ ที่พรีโหลดมาให้ครบเครื่อง เรื่องนี้ HTC คงต้องทำการบ้านอีกหน่อย แม้ว่า Hardware จะโอเค แต่เรื่องความพร้อมในการใช้งานคอนเท้นท์ยังน้อยครับ
ส่วนของฟังก์ชันกล้อง Digital Camera
มาดูเรื่องกล้องกันบ้างครับ บน Optimus 3D แปะกล้องเลนส์คู่มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิคเซล (โหมด 2D) และ 3MP (3D) พร้อมแฟลชดวงคู่, ออโต้โฟกัส, ทัชโฟกัส แต่ไม่สามารถเปิดแฟลชระหว่างถ่ายภาพ 3D ได้นะครับ ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ HD1080p (2D) และ HD720p (3D) คุณภาพอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ เปิดดูในมือถือ – อัพลง FB, Twitter สบาย
ส่วนของ HTC Evo3D พิเศษกว่าใครตรงที่กล้องเลนส์คู่ 5MP (แต่ถ่าย 3D ได้แค่ 2MP) มีสวิตซ์สลับโหมด 2D/3D ด้วย พร้อมปุ่มชัตเตอร์ 2 จังหวะ ช่วยให้การถ่ายภาพเป็นไปได้ง่ายขึ้นมาก การถ่ายวิดีโอเท่ากับ Optimus 3D ครับ ที่ HD1080p (2D) และ HD720p (3D) คุณภาพพอใช้ได้ แต่สำหรับวิดีโอ 3D ทั้ง 2 รุ่น ไม่แนะนำให้ถ่ายในที่แสงน้อยครับ เพราะแทบไม่มีมิติอะไรเลย แถมไม่ชัดด้วย
ขอฟันธง
กล้องทั้ง 2 รุ่นนี้มีดี – เสียแตกต่างกันไปครับ อย่างของ LG ที่ถ่าย 3D ได้ความละเอียดสูงหน่อย และภาพจะเนียนกว่าเล็กน้อย แต่ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ – ปุ่มสลับโหมดให้ ในขณะที่ผั่ง HTC ใส่สิ่งที่ควรจะมีให้ครบ แต่ถ่ายภาพ 3D ความละเอียดน้อยไปหน่อย หากคุณไม่ได้แคร์เรื่องคุณภาพมากนัก ทั้ง 2 สมาร์ทโฟนตอบโจทย์เรื่องการถ่ายภาพได้ไม่มากก็น้อยครับ
แบตเตอรี่
ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการใช้งานสมาร์ทโฟนในตอนนี้ ส่วนใหญ่ขั้นต่ำจะอัดมาให้ที่ 1,500 mAh อย่างบน Optimus 3D ก็ใส่มาให้ที่ระดับความจุนี้ครับ การใช้งานทั่วๆ ไป พอลากได้ถึง 1 วัน (9-11 ชั่วโมง) หากไม่ได้ใช้อะไรมากนัก แต่ถ้าเล่นหนักๆ ดูวิดีโอ เกม 3D ติดต่อกันได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงครับ ต้องเข้าใจว่า Hardware ค่อนข้างซดไฟมากทีเดียว ควรหา Mobile Booster หรือแบตเตอรี่สำรองเตรียมไว้ดีที่สุด
สำหรับ Evo3D เหมือนจะรู้ใจว่าติดของแรงมา จึงอัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 1,730 mAh ! แน่นอนครับ การใช้งานจริงทำได้ยาวนานกว่า Optimus 3D อย่างเห็นได้ชัด ในการใช้งานทั่วๆ ไป 1 วันสบายครับ แต่ถ้าเล่นหนักๆ 6-7 ชั่วโมงขีดแบตเริ่มแดงแล้ว หากคิดว่าเล่นเยอะจริงๆ Mobile Booster หาซื้อไว้ดีกว่าครับ
ขอฟันธง
ง่ายๆ ได้ใจความ “HTC Evo3D” แบตอึดกว่าเห็นๆ เหมาะกับสมาร์ทโฟนยุคนี้ที่ Hardware แรง ซดแบตยิ่งกว่าน้ำมัน แน่นอนว่ายิ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นด้านมัลติมีเดียแล้ว ยิ่งใช้ได้นานยิ่งดีครับ แต่ยังไงๆ ก็ควรหา Mobile Booster แบตเตอรี่สำรองพกติดกระเป๋าไว้ เผื่อแบตเหลือน้อยยังพอประทังชีวิตไปได้นานพอสมควร
HTC Evo3D vs. LG Optimus 3D
เท่าที่ได้ทำการทดสอบ 2 สมาร์ทโฟนหน้าจอ 3D รุ่นใหญ่ เรื่องความสามารถทาง Hardware โดยรวมแล้วค่อนข้างสูสี เพราะพี่แกมาแบบ Dual-Core ทั้งคู่ อาจแตกต่างไปบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย เช่น แรม, หน้าจอ, เมมโมรี ฯลฯ ต่างรุ่นก็ต่างมีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามที่กล่าวผ่านมา แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ “3D Experience” ในเมื่อมือถือรองรับ 3D เต็มรูปแบบแล้ว ก็ต้องมีคอนเท้นท์พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ด้วย ซึ่งจุดนี้ LG กินขาด HTC โดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ 3D Hub, 3D Game Converter รวมถึงเกม 3D ที่แถมให้ฟรีๆ 11 เกม เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งาน ไม่ต้องโหลดอะไรเพิ่มอีก นี่คือจุดแข็งที่ทำให้ LG Optimus 3D กลายเป็นผู้ชนะในวันนี้ครับ
สำหรับราคาขายของ Optimus 3D อยู่ที่ 18,900 บาท ส่วน Evo3D อยู่ที่ 19,900 บาท รักใครชอบใคร ไม่บังคับครับ คุณเป็นผู้ตัดสิน และศึกของสมาร์ทโฟน 3 มิติก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ ฉบับหน้าจะมีอะไรมีชนกันอีกนั้น ติดตามกันได้ในบทความหน้า
โดย @Papayatop จาก i3Tech Guide