อันที่จริงบริการ Chrome Web Store นั้นมีการเปิดตัวมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะว่าแพลตฟอร์มของกลุ่มคนใช้เว็บเบราเซอร์ยังคงมีหลายกลุ่มอยู่ เพราะบ้างก็ใช้ FireFox บ้างก็ใช้ IE และหลายคนก็ยังคงใช้ IE เวอร์ชั่น 6 ที่เลิกพัฒนาไปนานแล้ว และนอกนั้นก็คือ ผู้ที่ใช้เว็บเบราเซอร์ Google Chrome
ที่นับวันจะมีคนหันมาเล่นกันมากขึ้น เพราะว่า Google Chrome นั้นนอกจากความรวดเร็วและการเป็นมาตรฐานในการแสดงผลเว็บไซต์ตามกฎของ W3C แล้ว Google Chrome ก็มีบริการพิเศษเทียบเท่ากับ Add-on ของ FireFox ที่เรียกว่า Chrome Web Store ที่นับวันมีผู้ใช้งานระดับนักพัฒนาเข้าลงทะเบียนและพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนเบราเซอร์ของ Chrome จนตอนนี้มีทั้ง Add-on และแอพพลิเคชั่นมากมายปรากฏให้ผู้ใช้งานเว็บเบราเซอร์ Google Chrome นั้นเลือกใช้ไม่ถูกทีเดียว
แอพพลิเคชันเท่านั้นที่จะดันแพลตฟอร์ม!
แพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนโตได้เพราะแอพพลิเคชั่น แล้วทำไมแพลตฟอร์มเว็บจะโตเพราะแอพพลิเคชั่นไม่ได้ ซึ่งพอลองมาดูที่การเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของ Google Chrome ก็จะพบว่าแม้ดูเผินเหมือนจะเป็นน้ำที่ดูนิ่งๆ แต่แท้จริงแล้วมันกลับไหลเชี่ยวอยู่ข้างใต้ เห็นได้จากกรณีที่ Google ได้เปิดบริการ Google+ เครือข่ายสังคมออนไลน์ของ Google ที่มียอดผู้ใช้สูงขึ้นราวกับเป็นการร่ายเวทมนตร์นั้นได้ส่งผลให้ยอดผู้ใช้งานเว็บเบราเซอร์ Google Chrome เพิ่มสูงขึ้นตาม นั่นก็เพราะหลายคนที่หันมาลิ้มลองบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ของ Google+ แล้วจะต้องปรับเปลี่ยนมาใช้งานมันผ่านGoogle+ ถึงจะสมฐานะ
เมื่อยอดผู้ใช้งาน Google Chrome เติบโตขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว ทาง Google ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนหน้าตา และบริการบางส่วนของ Chrome Web Store ใหม่ให้ดูน่าใช้งาน แต่ถึงอย่างนั้น Chrome Web Store ก็ยังถือเป็นดินแดนลับแลสำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่อยู่ดี จะมีข้อยกเว้นก็เฉพาะกลุ่มผู้ใช้งาน Google Chrome ที่ขี้สงสัยจึงจะสามารถเข้าไปค้นพบความลับที่ซุกซ่อนอยู่ใน Chrome Web Store ได้ และสิ่งที่พวกเขาได้ค้นพบก็ทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ใต้มนต์ของ Google เข้าอย่างจัง เพราะว่า Chrome Web Store นั้นเป็นเสมือนแหล่งที่รวมแอพพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์ในทุกสิ่งที่เราต้องการ และที่สำคัญก็คือทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันวางอยู่บนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเว็บ
ความลับของ Chrome Web Store
สำหรับบริการ Chrome Web Store ของ Google แม้จะมีการบอกว่าได้ถูกเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปบ้างแล้ว แต่ทาง Google ก็ยังคงสีขาวและเทาเหมือนบริการตัวอื่นๆ แถบซ้ายมือของหน้าเว็บไซต์ Chrome Web Store จะเป็นส่วนแสดงเมนูที่ประกอบไปด้วย ช่องค้นหาแอพและรายการที่ถูกแบ่งตามหมวดหมู่ของแอพ ส่วนด้านขวาของหน้าเว็บไซต์จะเป็นพื้นที่แสดงรายการของแอพที่เด่นๆ หากทำการกดเลือกที่แอพที่เราสนใจก็จะมีหน้าต่างแสดงรายละเอียดปรากฏขึ้นมา สังเกตจะเห็นปุ่มติดตั้งอยู่มุมบนให้ทำการติดตั้ง เพียงแค่นี้แอพก็จะถูกติดตั้งลงบน Google Chrome ทันที
เมื่อก่อนนี้ข้อจำกัดในการใช้งานแอพต่างๆ บนเว็บนั้นจะมีปัญหาเรื่องการดึง รับ-ส่งข้อมูล และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือแอพพวกเกมบนเว็บเบราเซอร์ที่จะต้องพบกับปัญหาการแสดงผลที่ด้อยกว่าเกมขนาดใหญ่อย่างเกมบนคอมพิวเตอร์พีซี แต่ตอนนี้เว็บเบราเซอร์ Google Chrome ที่มาพร้อมกับบริการ Chrome Web Store นั้นได้พัฒนาตัวเองให้สามารถรองรับการแสดงผลข้อมูลปริมาณมากๆ และสามารถเล่นเกมขนาดใหญ่ที่มีการประมวลผลกราฟิก 3 มิติได้ดีเทียบเท่าคอมพิวเตอร์พีซีที่ใช้กราฟิกการ์ดขนาดกลางๆ ได้ 1 เครื่อง ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า สถาปัตยกรรมและแนวคิดของ Chrome Book ที่เป็นอีกธุรกิจหนึ่งของ Google กับการใช้แพลตฟอร์มเว็บให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นน่าจะเป็นไปได้แล้ว
แม้ว่าตอนนี้ Chrome Book อาจจะอยู่ในสถานะที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่อนาคตของมันกับการทำได้มากกว่าแสดงผลเว็บของ Chrome และ Chrome Web Store นั้นน่าจะเป็นอะไรที่สามารถการันตีถึงการพัฒนาของ Google ได้อย่างชัดเจนที่สุด
พบกับแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจใน Chrome Web Store
ผมนึกอยู่แล้วล่ะว่าผู้อ่านหลายคนต้องมีคำถามนี้อยู่ในหัวแน่ๆ ว่าถ้าเปลี่ยนมาใช้ Chrome Web Store แล้วจะมีแอพที่น่าสนใจมาให้ใช้หรือเปล่า เอาเป็นว่าผมพาไปรีวิวและทัวร์แบบสั้นๆ เฉพาะแอพที่น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ส่วนถ้าต้องการทางเลือกใหม่ๆ นั้นหลังอ่านบทความนี้จบคุณผู้อ่านก็น่าจะชำนาญและเลือกใช้แอพต่างๆ ได้ตามใจชอบแล้วล่ะครับ
Offline Google Mail
อันที่จริงเวลาเราจะเช็คอีเมล์ของเราผ่าน Gmail นั้นก็แค่เข้าเว็บไซต์ไม่ต้องโหลดแอพบน Chrome Web Store มาใช้เลยก็ได้ แต่ถ้าหากว่าเราโหลดแอพ Offline Google Mail มาใช้แล้วทำการเชื่อมต่อบัญชีแล้ว เวลาเราพกพาเครื่องคอมพิวเตอร์แลปท็อปของเราไปไหนมาไหนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตให้เชื่อมต่อ เราแค่เปิด Chrome ขึ้นมาแล้วเปิดแอพนี้ช่วงที่เราทำงานแล้วไม่ได้เปิดเช็คอีเมล์ แอพนี้จะทำการ Push ข้อความต่างๆ เก็บไว้ในหน่วยความจำ ให้เราสามารถเปิดอ่านย้อนหลังในภาวะที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ครับ
Evernote Web
แอพจดบันทึกที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มพกพาอย่าง Android และ iOS ที่สามารถบันทึกเสียง เตือนความจำ ใส่วิดีโอ เว็บลิงค์ และอื่นๆ แทรกเข้าไปได้ อีกทั้งยังเป็นการประมวลผลบนระบบ Cloud ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าบันทึกด้วยเครื่องไหน แพลตฟอร์มอะไร จะหายหรือเสียไป ข้อมูลก็ยังคงอยู่
Feedly
แอพสำหรับรวบรวม RSS Feed ของเว็บต่างๆ มาแสดงเป็นหน้าเว็บหรือบล็อกย่อยๆ ที่เราจะจัดการ หากใครที่ชอบเล่น Flipboard บน iPad น่าจะชอบ Feedly บน Chrome ตัวนี้แน่นอน
Hootsuite
Social Dashboard อีกตัวที่จะทำให้คุณเล่น Facebook, Twitter และ Foursquare ได้ 3 อย่างในบริการของมันตัวเดียวก็ถูกจับลงมาอยู่ใน Chrome Web Store ให้สามารถใช้งานมันโดยไม่ต้องเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของมันเลย แต่การใช้งานก็ยังคงความเป็น Social Dashboard แบบที่มันเป็น ซึ่งก็มีการวัดสถิติและสามารถแสดงผลรายงานได้เหมือนเดิม
Layers
แอพบน Chrome Web Store ตัวนี้เป็นอีกบริการหนึ่งที่จะทำให้การใช้งาน Social Network หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์บน Facebook, Twitter และ RSS Feed กลายมาเป็นหนังสือพิมพ์ย่อมๆ จากเพื่อนและคนที่คุณติดตามได้อย่างง่ายดายครับ
BeFunky Photo Editor
หลงใหลการแต่งภาพแต่ไม่มีปัญญาซื้อ Photoshop ถ้าจะให้ใช้ Open Source แบบ Gimp ก็ดูมึนงงเกินกว่า User แบบ Dummy อย่างเราจะเข้าใจ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ Chrome Web Store มีแอพแต่งภาพใช้งานง่าย ไม่ต่างกับ Instragram บน iPhone และ Molome บน Android อย่าง BeFunky Photo Editor มาให้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้การแต่งภาพ ของคุณเป็นเรื่องง่าย และอัพโหลดขึ้นแชร์เพื่อนๆ ได้ทันที
Skyrama
เกมแนว Simulation ที่จะทำให้คุณเป็นผู้บริหารสายการบินที่คุณเป็นเจ้าของ ด้วยกราฟิกตัวละครและการออกแบบน่ารักๆ ก็น่าจะถูกใจสาวๆ ที่ใช้งาน Chrome อยู่แน่ๆ
Angry Bird
ถ้าผมไม่รีวิวเจ้านกยั้วะทั้งหลายในเวอร์ชั่นเว็บแอพบน Chrome ก็คงจะแปลกเต็มที จะมีกี่คนที่ในเวลานี้ไม่รู้จักเกมนี้ ว่าแล้วรีบดาวน์โหลดไปเล่นเถอะครับ